ฉากบุหรี่ในหนัง จำเป็นไหม?
คอลัมน์จับกระแส
แม้จะมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง แต่ฉากสูบบุหรี่ของตัวแสดงในฉากหนังก็ยังคงมีให้เห็นอยู่ ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความหนักใจว่าจะทำอย่างไรถึงจะตัดอีกต้นทางที่อาจมีอิทธิพลอย่างสำคัญต่อวัยรุ่นให้ริลองสูบบุหรี่ลงได้
เราต้องใช้ประโยชน์จากโอกาสใหม่ๆ ในการรับบุหรี่บนหน้าจอ และอยู่ในมือของผู้สูบบุหรี่
เอกสารลับ บริษัทฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชั่นแนล 1983
ในรายงานของศูนย์เพื่อการป้องกันและควบคุมโรค (ซีดีซี) ของสหรัฐอเมริกาที่เผยแพร่เมื่อเร็วๆ นี้ ระบุว่าในปี 2016 หนังที่ติดอันดับทำรายได้สูงสุดในสหรัฐ มากถึง 41 เปอร์เซ็นต์ มีฉากที่ตัวแสดงสูบบุหรี่ แม้จะเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ลดลงจากปีก่อนหน้า แต่จากการศึกษาพบว่า ในฉากหนังที่มีบุหรี่เข้ามาเกี่ยวข้องกลับมีเพิ่มขึ้นถึง 81 เปอร์เซ็นต์ ในระหว่างปี 2015-2016
เป็นการศึกษาข้อมูลระหว่างปี 2010-2016 ที่พบว่า ในหนังมีการใช้บุหรี่ ซิการ์ ไปป์ กล้องสูบยาแบบยาว บุหรี่ไฟฟ้า เป็นส่วนประกอบฉากมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ของหนังที่ติดอันดับท็อปเท็นทำเงินสูงสุดในบ๊อกซ์ออฟฟิศของสหรัฐในแต่ละสัปดาห์ของแต่ละปีที่ทำการศึกษาดังกล่าว โดยปีที่มีสถิติสูงสุดของการใช้บุหรี่ประกอบในฉากหนัง คือปี 2016 ที่มีฉากเกี่ยวกับบุหรี่จำนวน 3,145 ฉากจากภาพยนตร์ 143 เรื่อง
The Magnificent Seven (PG-13) หนังมาทำใหม่ปี 2016
ในหนังมีคนสูบบุหรี่จำนวน 11 คน และมีการสูบถึง 125 ครั้ง มากเป็นสองเท่าของหนังในปี 1960 ที่นำแสดงโดย Yul Brynner และ Steven โดยในปี 1964 Yul Brynner เลิกบุหรี่หลังจากที่ศัลยแพทย์ทั่วไป สหรัฐอเมริกา ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า "การสูบบุหรี่ทำให้เกิดโรคมะเร็งปอด" ในปี 1985 เขาป่วยและเสียชีวิตจากมะเร็งปอด ก่อนเสียชีวิตหนึ่งสัปดาห์ได้เขียนข้อความรณรงค์ด้วยคำพูดที่ว่า "What ever you do Just don't Smoke" หรือ "ไม่ว่าคุณจะทำอะไร ขอจงอย่าสูบบุหรี่"
Yul Brynner (แสดงในปี 1960) Chris Pratt (แสดงในปี 2016)
ข้อมูลจากเว็บไซต์ www.smokefreemovies.ucsf.edu/ สามารถเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
หนังถูกจัดเรตเป็นหนังวัยรุ่นในปี 2016 ที่มีทั้งเรตจี พีจี และพีจี-13 มีฉากที่มีบุหรี่เกี่ยวข้องจำนวน 26 เปอร์เซ็นต์ ในหนังเรตอาร์ มี 67 เปอร์เซ็นต์ ฉากใช้บุหรี่ในหนังวัยรุ่น มี 31 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม หากมองในภาพรวมระหว่างปี 2015-2016 มีฉากหนังที่มีการใช้บุหรี่ให้เห็นเพิ่มขึ้นถึง 80 เปอร์เซ็นต์
ไมเคิล ไทแนน ผู้เขียนรายงานชิ้นนี้ และนักวิเคราะห์ด้านสาธารณสุขของ ซีดีซี บอกว่า เป็นที่รับรู้กันว่ายิ่งเราเห็นฉากสูบบุหรี่ในหนังมากเท่าไหร่ เราก็อาจจะได้เห็นวัยรุ่นสูบบุหรี่กันมากเท่านั้น ซึ่งตัวแปรทั้งสองนี้มีความสัมพันธ์กันอย่างไม่ตั้งใจ
นอกจากนี้ ค่ายหนังหรือผู้ผลิตภาพยนตร์ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐอาจช่วยได้โดยตรงด้วยการลดการสนับสนุนหนังที่มีการใช้บุหรี่ประกอบในฉากด้วย
ดิสนีย์...มุ่งมั่นที่จะกำจัดฉากสูบบุหรี่ในภาพยนตร์ทั้งหมด ที่เด็กๆ ดู เราสามารถลดคนเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากการสูบบุหรี่กว่าหนึ่งล้านคน หากสตูดิโอภาพยนตร์ทุกแห่งทำตาม
ศัลยแพทย์ทั่วไปสหรัฐอเมริกา 2015
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ข้อมูลโดย กองบรรณาธิการ Smartonline
วันที่ 7 สิงหาคม 2560