นักจิตวิทยาย้ำ "บุหรี่ไฟฟ้าดึงดูดให้สูบบุหรี่ธรรมดาเพิ่มขึ้น"
คอลัมน์เก็บมาฝาก
มีรายงานตีพิมพ์ในวารสาร Tobacco Control ฉบับเดือนสิงหาคม 2017 ผู้วิจัยทำการสำรวจและติดตามวัยรุ่น 2,836 คน ที่มีอายุ 14-15 ปี จาก 20 จาก 20 โรงเรียนในอังฤกษ พบว่า
- วัยรุ่น 343 คนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า มีการทดลองสูบบุหรี่ซิกาแรต 118 คนหรือ 34%
- วัยรุ่น 1,383 คนที่ไม่สูบบุหรี่ มีการทดลองสูบบุหรี่ซิกาแรต 124 คนหรือ 9 %
ศาสตราจารย์มาร์ค คอนเนอร์ นักจิตวิทยาทางสังคมจากมหาวิทยาลัยลีดส์ ลอนดอน (Leeds University London) สรุปงานวิจัยว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้าในวัยรุ่นที่ไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อน เป็นสัญญาณคาดการณ์ของการทดลองสูบบุหรี่ธรรมดาภายในเวลาหนึ่งปี ผู้วิจัยตั้งสมมุติฐานถึงปรากฎการณ์ ที่พบว่า บุหรี่ไฟฟ้าทำให้วัยรุ่นเห็นการสูบบุหรี่หรือการเสพติดนโคตินเป็นเรื่องธรรมดา ที่น่าสนใจคือ วัยรุ่นที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่มีเพื่อนที่สูบบุหรี่ธรรมดา มีสัดส่วนที่ไปสูบบุหรี่ธรรมดาสูงกว่าวัยรุ่นที่มีเพื่อนที่สูบบุหรี่ธรรมดา เป็นรายงานแรกจากประเทศอังกฤษที่แสดงถึงความสัมพันธ์ของการสูบบุหรี่ไฟฟ้ากับการสูบบุหรี่ธรรมดา ซึ่งมีผลเหมือนกับการสำรวจจากสหรัฐอเมริกาที่มีการรายงานมาก่อนหน้านี้
รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการ สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ได้แสดงความคิดเห็นว่า ขณะนี้สิ่งที่กังวลกันมากที่สุดคือ บุหรี่ไฟฟ้าจะเป็นสื่อนำให้เยาวชนกลับไปเสพติดบุหรี่ธรรมดาเพิ่มขึ้น จากรายงานของนายแพทย์ใหญ่สหรัฐอเมริกา (E-Cigarette Use Among Youth and Young Adults : A Report of the Surgeon General 2016) แสดงหลักฐานว่า บริษัทบุหรี่ที่ขายบุหรี่ไฟฟ้าได้มีการออกแบบผลิตภัณฑ์รวมทั้งใช้กลยุทธ์และช่องทางการทำการตลาดที่พุ่งเป้าไปที่เด็กและเยาวชน หากไม่สามารถควบคุมการตลาดและป้องกันการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าของเด็กและเยาวชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อัตราการสูบบุหรี่ของเยาวชนที่มีแนวโน้มลดลงอาจจะกลับพุ่งสูงขึ้นมากอีก
ข้อมูลโดย : กองบรรณาธิการ Smartonline
วันที่ 18 กันยายน 2560