เรื่องเล่าในพื้นที่

คอลัมน์จับกระแส 

การขึ้นภาษีครั้งนี้ทำให้บุหรี่ที่ราคาถูก มีราคาที่สูงขึ้น ซองละเกือบ 20 บาท จาก 40 เป็น 60 บาท ทำให้เงินค่าซื้อบุหรี่ซองเพียงพอที่จะซื้อข้าวราดแกงได้สองจานในต่างจังหวัด

การสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พ.ศ.2557 พบว่า คนที่ยากจนที่สุดที่สูบบุหรี่ จะใช้รายได้ 10-20% ในแต่ละเดือนไปกับการซื้อบุหรี่ การที่ราคาบุหรี่แพงขึ้นครั้งนี้ จึงน่าจะเป็นแรงจูงใจที่ดี สำหรับผู้สูบบุหรี่รายได้น้อยที่จะเลิกสูบบุหรี่ให้ได้ ซึ่งจะทำให้สามารถประหยัดค่าซื้อบุหรี่ได้เดือนละหลายร้อยบาท นำไปใช้จ่ายในเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว อาทิ อุปกรณ์สนับสนุนการศึกษาของลูก เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ข้าวปลาอาหาร หรือสิ่งจำเป็นอื่นของครอบครัว 

นอกจากจะประหยัดเงินแล้ว การเลิกสูบบุหรี่จะทำให้สุขภาพดีขึ้นทันทีในระยะสั้น ร่างกายจะซ่อมแซมอวัยะภายในที่เสียหายไปจากการสูบบุหรี่ ทำให้ความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่างๆ ลดลง 

เลิกสูบ 1 ปี โอกาสที่จะเกิดหัวใจวายกะทันหันลดลงครึ่งหนึ่ง เลิกสูบ 5 ปี โอกาสเกิดเส้นเลือดสมองตีบจะลดลง  เลิกสูบ 15 ปี โอกาสเกิดมะเร็งปอดจะลดลงจนเกือบเท่าคนไม่สูบบุหรี่เลย คนที่เลิกสูบเมื่ออายุ 50 ปี จะอายุยืนขึ้น 6 ปี และคนที่เลิกสูบเมื่ออายุ 60 ปี จะมีอายุยืนขึ้น 3 ปี 

ดังนั้นการเลิกสูบบุหรี่จึงมีผลดีต่อทั้งครอบครัวและสุขภาพคนสูบบุหรี่เอง และที่สำคัญในคนสูบบุหรี่ที่ลูกยังเล็ก การสูบบุหรี่จะลดโอกาสติดบุหรี่ของลูกด้วย 

ข้อมูลโดย กองบรรณาธิการ Smartonline

วันที่ 4 ตุลาคม 2560