บุหรี่ไฟฟ้า...โก้เก๋ พิษน้อย จริงหรือ?

คอลัมน์จับกระแส

การเปิดเผย ผลการทดลองการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในหนูทดลอง โดยได้แบ่งกลุ่มหนูทดลองออกเป็นกลุ่มที่ได้รับไอจากบุหรี่ไฟฟ้าระยะสั้น 5 นาที เพียงครั้งเดียวกับกลุ่มระยะยาวซึ่งรับไอจากบุหรี่ไฟฟ้าวันละ 4 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 5 วัน ติดต่อกัน 8 เดือน โดยใช้นํ้ายาบุหรี่ไฟฟ้า รสคาปูชิโน ที่มีสารนิโคติน 18 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร

ผลการวิจัยดังกล่าว พบว่า ภายใน 1 ชั่วโมง หลังจากที่หนูได้รับบุหรี่ไฟฟ้า 5 นาที ขนาดเส้นเลือดจะหดตัวเล็กลง 31% ส่งผลให้ความสามารถในการขยายตัวของหลอดเลือดลดลง 9% ขณะที่กลุ่มหนูที่ได้รับไอบุหรี่ไฟฟ้าระยะยาว พบว่า ดัชนีการแข็งตัวของหลอดเลือดใหญ่ขึ้นทรวงอกมีค่าสูงขึ้น 2 เท่า ครึ่งของกลุ่มหนูที่ไม่ได้รับไอบุหรี่ไฟฟ้า การแข็งตัวของหลอดเลือดใหญ่ แสดงให้เห็นว่าภาวะหลอดเลือด มีความหยืดหยุนลดลง หมายถึง ระบบไหลเวียนโลหิตและหลอดเหลือดเปลี่ยนแปลง แสดงภาวะของการแก่ตัวของหลอดเลือดเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่สัมพันธ์กับการนำไปสู่การเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดสมองตีบในมนุษย์

โดยผู้วิจัยสรุปว่า ผลทดสอบดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า บุหรี่ไฟฟ้ามีผลต่อสุขภาพของหัวใจและหลอดเลือด กระทบการทำงานของเซลล์บุหลอดเลือด เป็นเหตุให้หลอดเลือดเสื่อมสภาพหรือแก่ก่อนวัย ซึ่งเป็นตัวพยากรณ์สำคัญของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจวายได้ 

จากงานวิจัยนี้ืทำให้เห็นว่า บุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายกว่าบุหรี่ธรรมดาเสียอีก บุหรี่ไฟฟ้าหรือ E-Cigarettes เป็นอุปกรณ์รูปแบบใหม่ที่ส่งผ่านสารนิโคติน เข้าสู่ปอดในรูปแบบละอองฝอย โดยไม่ต้องมีการเผ้าไหม้และด้วยเป็นบรรจุภัณฑ์ที่สวยหรู ดึงดูดใจและทันสมัยคล้ายซิการ์ ปากกาสีสันสวยงามและปรุงให้มีรสชาติต่างๆ เช่น รสเชอร์รี่ ช็อกโกแลต วนิลา จึงทำให้เป็นที่นิยมอยากทดลอง การใช้บุหรี่ไฟฟ้ามีสารพิษต่างๆ ไม่น้อยไปกว่าการสูบบุหรี่ปกติ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ  

ข้อมูลโดย กองบรรณาธิการ Smartonline

วันที่ 27 พฤศจิกายน 2560