บลูมเบิร์ก ตั้งองค์กร "หยุดสินค้าและองค์กรยาสูบ"
คอลัมน์ : ความเคลื่อนไหว
ไมเคิล อาร์ บลูมเบิร์ก เศรษฐีสหรัฐ ฯ มีทรัพย์สิน 16,000 ล้านดอลลาร์ เคยเป็นผู้ว่าการนครนิวยอร์กถึง 3 สมัย เร่ิมตั้งแต่ได้รับเลือกตั้งครั้งแรกในปี 2544 ครั้งที่ 2 ปี 2548 และครั้งที่ 3 ปี 2552
เขาเป็นนักรณรงค์ต่อต้านการสูบบุหรี่ตัวยง ตั้งแต่ได้้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ในปี 2548 ได้บริจาคเงิน 125 ล้านดอลลาร์ เพื่อใช้ในการรณรงค์การไม่สูบบุหรี่ และได้ออกกฎหมายห้ามโฆษณาและสูบบุหรี่ธรรมดาในที่สาธารณะ
บิล เกตส์ เป็นนักธุรกิจผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ มีทรัพย์สิน 76.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นมหาเศรษฐีใจบุญอีกคน ที่บริจาคเงินร่วมสมทบในการขยายขอบเขตต่อต้านการสูบบุหรี่ทั่วโลก เขากล่าวว่า "โรคจากบุหรี่ถือเป็นภัยท้าทายสุขภาพที่ร้ายแรงที่สุด โดยเฉพาะในประเทศที่กำลังพัฒนาเผชิญ" เงินในส่วนของมูลนิธิเกตส์จะเน้นใช้รณรงค์ต่อต้านบุหรี่ ในประเทศ จีน อินเดีย และแอฟริกา เป็นต้น
ในปี 2551 บลูมเบิร์กประกาศแผนโครงการรณรงค์ต่อต้านการสูบบุหรี่ทั่วโลก บริจาคเงิน 250 ล้านดอลลาร์ โดยมีบิล เกตส์ ร่วมบริจาคเงินเข้าโครงการ 125 ล้านดอลลาร์ เขาและบิล เกตส์ รวมแล้วทุ่มเงินกับการรณรงค์ในระยะ 4 ปีมีมูลค่า 375 ล้านบาท โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อเข้าไปเสริมมาตรการ การขึ้นภาษีสินค้ากลุ่มยาสุบและบุหรี่ การปรับเปลี่ยนทัศนคติสังคมต่อการสูบบุหรี่ การคุ้มครองผู้ไม่สูบบุหรี่จากควันบุหรี่ และการช่วยประชาชนที่ติดบุหรี่เลิกบุหรี่ จำนวนผู้สูบบุหรี่ในนครนิวยอร์กลดลงราว 3,000 คน นับแต่เขาเปิดแผนต่อต้านการสูบบุหรี่เมื่อเร่ิมเป็นนายกเทศมนตรีในปี 2548 นั่นคือแผนริเร่ิมของบลูมเบิร์ก"
"หากยังไม่มีการดำเนินการเพื่อลดการสูบบุหรี่ ประชากรโลกราว 1,000 ล้านคน ปัจจุบันทั่วโลกมีคนเสียชีวิตจากโรคที่เกี่ยวกับยาสุบปีละ 5 ล้านคน ผู้สูบบุหรี่ 80% อยู่ในชาติที่มีรายได้ปานกลางและรายได้ต่ำ โลกที่ไม่มียาสูบ คือโลกที่ผู้คนมีอายุยืนและมีความสุขขึ้น" บลูมเบิร์กได้พูดไว้
ในปี 2556 บลูมเบิร์ก ได้ผ่านร่างกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ไฟฟ้าในที่สาธารณะ ร้านอาหาร บาร์ สวนสาธารณะและชายหาด เป็นการทิ้งทวนในสมัยที่ 3 สำหรับการเป็นนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ค นอกจากนี้ยังได้บริจาค 350 ล้านดอลลาร์ ให้กับมหาวิทยาลัย จอห์น ฮอปกินส์ เป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่ง มีชื่อเสียงในด้านการแพทย์ การสาธารณสุข และการพยาบาล ตั้งอยู่ที่เมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ ในประเทศสหรัฐฯ
และเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2561 ณ เคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ ไมเคิล บลูมเบิร์ก ประกาศว่าจะใช้เงิน 20 ล้านดอลลาร์หรือราว 626 ล้านบาท เพื่อก่อตั้งองค์กรเฝ้าระวังอุตสาหกรรมยาสูบ โดยใช้ชื่อองค์กรว่า Stoping Tobacco Organization and product (Stop) "หยุดสินค้าและองค์กรยาสูบ" ที่จะทำหน้าที่เปิดโปงกิจกรรมและกลยุทธ์การตลาดต่างๆ ที่บริษัทบุหรี่จะนำมาใช้ล่อเพื่อให้คนสูบบุหรี่
บลูมเบิร์ก กล่าวว่า ช่วงทศวรรษที่ผ่านมา มาตรการควบคุมยาสูบของชาติต่างๆ สามารถช่วยชีวิตคนได้เกือบ 35 ล้านคน แต่อุตสาหกรรมยาสูบพยายามหาลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะเยาวชน เพราะฉะนั้นเราต้องปกป้องเยาวชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ เป็นลูกค้ารายใหม่ของบริษัทบุหรี่
"โลกที่ไม่มียาสูบ คือโลกที่ผู้คนมีอายุยืนและมีความสุขขึ้น"
ข้อมูลโดย กองบรรณาธิการ Smartonline
วันที่ 26 มีนาคม 2561