"ติดเพราะเพื่อน เลิกได้เพราะความรัก เพราะผู้หญิงคนที่สำคัญในชีวิตคือ แม่"

คอลัมน์ : Quit For Life

ผมสูบบุหรี่ตั้งแต่อายุ 18 ปี รวมแล้ว 12 ปี ครับ รักๆ เลิกๆ กับบุหรี่มา 1 ครั้ง การเริ่มสูบบุหรี่ของผมเป็นความเชื่อที่ผิดๆ ของผม ตอนอยู่หอพักมีเพื่อนคนหนึ่งตื่นมาตอนดึกเพื่อสูบบุหรี่ และอ่านหนังสือ ผมสงสัยก็เลยถามว่าทำไมอ่านตอนนี้ เพื่อนตอบว่ามันเงียบและบุหรี่จะทำให้ไม่ง่วงตอนอ่านและจำได้ดี ก็เลยลองทำตามเพื่อนบ้าง เพราะเพื่อนผมคนนี้เรียนเก่งด้วย ผมจึงคิดว่านี่คือตัวแปรที่ทำให้เพื่อนเรียนเก่ง จำและอ่านหนังสือได้มากกว่าคนอื่น แล้วผมก็ติดมันเรื่อยๆ 

จนเข้ามหาวิทยาลัย ชั้นปี 2 ผมแอบรักผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วรู้มาว่าเค้าไม่ชอบคนสูบบุหรี่ เท่านั้นแหละผมเลิกและทิ้งบุหรี่ได้ 6 เดือน หลังจากนั้นผมกลับมาสูบใหม่เพราะเค้าทิ้งผมไป มีอยู่ช่วงหนึ่งสูบหนักมากเพราะต้องถ่ายละคร ไม่ได้นอน รู้สึกสุขภาพตัวเองโทรม หน้าตาไม่สดชื่น มีกล่ินบุหรี่ติดตัวจะขาดความมั่นใจเวลาเข้าฉากกับนักแสดงนางเอก ต้องพกแปรงสีฟัน ต้องอมลูกอมเพื่อดับกลิ่นบุหรี่ในปาก เริ่มมีความอึดอัดในการทำงาน 

สาเหตุหลักสำหรับการเลิกบุหรี่จริงๆ คือ ครอบครัว คุณอาผมเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอดอายุ 50 ปี ส่วนอีกคนเป็นมะเร็งที่หลอดลม สูบบุหรี่เช่น กัน ตอนนี้อาการโคม่า พูดไม่ได้ ชาไปครึ่งตัว นอนอยู่โรงพยาบาล หลังกลับจากงานศพคุณอา คุณแม่เขียนโน้ตติดไว้ที่ห้องน้ำ ที่โต๊ะกินข้าว ในห้องนอนผม โน้ตเขียนว่า "แม่รักลูกมาก เลิกบุหรี่เถอะนะ อยู่กับแม่นานๆ รักลูก จากแม่" ผมกลับจากทำงานกลางดึกเห็นโน้ตก็โทรไปบอกพ่อ ซึ่งพ่อผมก็สูบบุหรี่ ผมเล่าให้พ่อฟังและบอกว่าผมจะเลิกก่อนแล้วนะ และก็มาบอกกับแม่ว่าผมจะลดลงและเลิกในที่สุด

 

ผมมานั่งคิด ผมไม่อยากเป็นคนที่สังคมรังเกียจเพราะขณะนี้การสูบบุหรี่แบ่งแยก จะถูกจำกัดสถานที่ให้สูบตรงนั้น ตรงนี้ไม่ว่าที่ดอนเมืองหรือร้านอาหาร ผมไม่อยากเป็นคนกลุ่มน้อยที่ถูกแบ่งแยก ทุกวันนี้ผมเลิกสูบบุหรี่แล้วครับ 

ข้อมูลจากวารสาร Smart ปี 2547 

นำมาเผยแพร่ใหม่ วันที่ 2 เมษายน 2561