"เขียนถึงขี้ยาที่น่ารัก"
คอลัมน์ : แขกรับเชิญ
ผมทั้งเกลียดทั้งกล้ว เกลียดการไปซื้อบุหรี่ โดยไม่เป็นเวล่ำเวลา เกลียดบุหรี่ที่มีราคาแพงกว่าขนมและทำให้คนกลายเป็นขี้ยา ส่วนกลัวนั้นกล้วว่าทางเดินไปร้านจะมีผีดักอยู่ แต่ที่น่ากลัวกว่าผีก็คือ ขี้ยาคนสั่งซื้อซึ่งเป็นพ่อของผมเอง
พ่อสูบบุหรี่ ติดต่อกันมาตลอดเวลาสี่สิบปี แม้ใจพ่ออยากจะเลิก แต่ก็เป็นได้แค่ความพยายาม
พ่อบวชหน้าศพปู่และพยายามใช้จังหวะเวลาของการเป็นพระเลิกบุหรี่ ญาติโยมต่างอนุโมทนาสาธุ พอสึกออกมาพ่อก็คว้าบุหรี่เข้าปากอีกจนได้ ลูกๆ ไม่มีใครกล้าดุพ่อเหมือนที่พ่อดุและตี ถ้ารู้ว่าลูกๆ ไปเฉียดหรือแตะบุหรี่เข้า
จนกระทั่ง ลุงซึ่งเป็นพี่ชายของพ่อเสียชีวิตไปด้วยโรคร้าย และศัตรูที่อยู่ข้างกายลุงตลอดมาซึ่งทำให้สุขภาพทรุดโทรมเร็ว คือ บุหรี่นอก ที่หลายๆ คนชอบซื้อมาฝาก
ลุงผู้มีปริญญาหลายสาขาเรียนรู้ตำราวิชามากมาย รวมทั้งศึกษามาอย่างดีว่า บุหรี่มีโทษมากน้อยเพียงไร ลุงผู้สมถะ ผู้ไม่ติดยศ ไม่ติดยึดตำแหน่งก็อดติดบุหรี่ไม่ได้ มันกันกร่อนชีวิตและสมองล้ำค่า มันจัดการเก็บความรู้และใบปริญญามากมายของลุง ไม่มีเวลาใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมา แล้วมันพาลุงขึ้นนอนทรมานบนเตียงผู้ป่วย และพรากจากพวกเราไป
พ่อซึ่งเฝ้าดูแลลุงอยู่ในโรงพยาบาลนานหลายเดือน ตัดสินใจเลิกบุหรี่ และทุกวันนี้ พ่อออกจากสมาชิกลูกค้าบุหรี่ของกระทรวงยาสูบ มาเป็นคนหนึ่งในกลุ่มที่รณรงค์เรื่องบุหรี่และยาเสพติดให้ชุมชน กลุ่มของพ่อออกตระเวนคุยกับนักเรียนตามโรงเรียนแจกคาถาสามข้อให้นักเรียนทั้งหลายว่า หนึ่งอย่าลอง สองอย่าลอง และสามอย่าลอง (เลยลูกหลานเอ๋ย...)
วันที่ 31 พฤษภาคม ผมไปช่วยงานรณรงค์ต่อต้านการสูบบุหรี่ที่จัดโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดหนองบัวลำภู โดยเอาคาถาของพ่อไปฝาก ทั้งที่รู้ดีว่าการไม่ให้ลองนั้นมันยากแค่ไหน ก็ผมเป็นวัยรุ่น และลองมาก่อน ขนาดกลัวพ่อยิ่งกว่าส่ิงใดก็ยังอดใจไม่ลองไม่ไหว
สิ่งที่ผมควรจะเพ่ิมเติมก็คือ การเลือก ท้ายที่สุดอะไรทำให้เราไม่เลือกบุหรี่ อาจเพราะผมอยากจะเก็บเงินไว้ซื้อหนังสือหรือเพลง อาจจะเก็บกล่องเสียงไว้ร้องเพลง เก็บร่างกายไว้เล่นกีฬา เก็บสมองไว้คิดคำโฆษณา มีความฝันที่อยากเป็นอย่างอื่นมากกว่าเป็นขี้ยา ผมว่าถ้าเรามีความมุ่งหวัง หรือความไฝ่ฝันที่ดีกว่ากาารติดยา น่าจะทำให้เราไม่เลือกทั้งๆ ที่คนอื่นๆ เขาก็สูบกันทั้งนั้น กำลังหันมาติดยาบ้า และที่น่าขนหัวลุกก็คือ รับรู้ว่ามีครูบางรายเป็นคนขาย มีตำรวจเป็นคนจัดส่ง ผมงง สังสัย และคิดว่าปัญหาบุหรี่และยาเสพติดนั้น ไม่เพียงทำลายสุขภาพ แต่กลายเป็นปัญหาที่ทำลายสังคมบั่นทอนศรัทธาของคนในชาติ
คนตัวเล็กๆ อย่างผมกับพ่อจะเอาปัญญาที่ไหนไปสู้ได้ แต่ก็เอาเถอะ ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไร ผมไม่ได้หวังว่าผู้อ่านที่เป็นเยาวชนคนหนุ่มสาว จะเลิกบุหรี่กันเดี๋ยวนี้
มีหนังโฆษณาบุหรี่ที่เคยดูมาสมัยวัยรุ่น และยังติดตามาจนบัดนี้ อยากให้ได้ดูกันทั้งโลก แต่ไม่รู้จะหาที่ไหนมาฉายจึงได้แต่เอามาเล่า เรื่องนั้นเร่ิมตรงที่มีชายคนหนึ่งโดนรังแก เขาพ่ายแพ้ และหาทางสู้ เขาหยิบไม้ขนาดเหมาะมือเป็นอาวุธแต่ก็โดนตะบันกระเด็นกลับมา หน้าตาปูดบวม เขาควานหามีดหมายไปแก้แค้น แต่กลับโดนรุมกระทืบบอบช้ำ ซ้ำรอย เขาเลือกปืนที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็โดนไล่ยิ่งด้วยห่ากระสุนวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน
เขานึกปิ๊งอะไรขึ้นมาได้ เขาหยิบบุหรี่ในซองสวยหรู และนำไปฝากศัตรูของเขาอย่างพินอบพิเทา ไม่ช้าไม่นานก็มีคนขนศพศัตรู ผ่านหน้าเขาไป หนังสั้นๆ สองสามนาทีดูสนุก จบลงไป เมื่อวัยเยาว์ แต่บ่อยหนที่ผมนึกถึงมาเวลาเห็นคนซื้อบุหรี่ไปฝากกัน
จึงขอบคุณสื่อทุกสื่อ ครูทุกท่านและใครต่อใครทุกคนที่ช่วยปกป้องผมกับพ่อและเยาวชนของเราให้พ้นจากภัยบุหรี่
ที่มา : คอลัมน์เก็บมาฝาก วารสาร Smart ฉบับที่ 168 มีนาคม 2557 จากหนังสือ ศุสาน ของศุ บุญเลี้ยง
เผยแพร่ smartonline วันที่ 14 สิงหาคม 2561