3 องค์กร ผู้ดำเนินโครงการ "STOP" ของมูลนิธิบลูมเบิร์ก
คอลัมน์ : เปิดโปงและเฝ้าระวังอุตสาหกรรมยาสูบ
มูลนิธิบลูมเบิร์กได้ประกาศว่า มหาวิทยาลัยบาธ (University of Bath) ศูนย์ธรรมาภิบาลนานาชาติในการควบคุมยาสูบ (Global Centre for Good Governance in Tobacco Control หรือ GGTC) และสหพันธ์นานาชาติเพื่อต่อต้านวัณโรคและโรคปอด (INternational Union Against and Lung Desease หรือ The Union) เป็น 3 องค์กรที่ได้รับเลือกให้ทำงานร่วมกัน ภายใต้โครงการเฝ้าระวังอุตสาหกรรมยาสูบทั่วโลก หรือที่มีชื่อว่า STOP (ซึ่งย่อมาจาก "Stopping Tobacco Organizations and Products" หรือ "หยุดอุตสาหกรรมยาสูบและผลิตภัณฑ์ยาสูบ") 3 องค์กรนี้ ซึ่งตั้งอยู่ที่ สหราชอาณาจักรอังกฤษ ประเทศไทย และประเทศฝรั่งเศส ตามลำดับ
โครงการ STOP ให้ทุนสนับสนุนในการดำเนินงาน 20 เหรียญสหรัฐฯ ในระยะเวลา 3 ปี เพื่อขยายงานของ tobaccotactics.org รายงานระดับโลกเรื่องยาสูบ (Tobacco Atlas) และ ดัชนีชี้วัดการแทรกแซงนโยบายโดยอุตสาหกรรมยาสูบ (Tobacco Industry Interference Index) ตลอดจนการจัดทำฐานข้อมูลที่ใช้นวัตกรรมและวิธีการ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน รวมทั้งวิเคราะห์เจาะลึกรายงานข้อมูลเปิดโปงเล่ห์อุบายขงออุตสาหกรรมยาสูบ นอกจากนี้โครงการ STOP จะทำหน้าที่หนุนช่วยประเทศต่างๆ ในทันทีหากมีการแทรกแซงนโยบาย โดยการจัดเตรียมข้อมูลพร้อมใช้ การเปิดโปงองค์กรแนวร่วมของอุตสาหกรรมยาสูบ การนำเสนอบทความแสดงความคิดเห็นทางสื่อต่างๆ ทุกประเภทและทุกช่องทาง เพื่อเป็นกระบอกเสียงทั้งในระดับประเทศและระดับโลก นอกจากนี้ จะมีการสนับสนุนทุนแก่องค์กรที่ทำงานด้านนี้ในประเทศที่กำลังพัฒนา เพื่อต่อสู่กับการแทรกแซงของอุตสาหกรรมยาสูบ
นายไมเคิล อาร์ บลูมเบิร์ก ได้รับการแต่งตั้งจากองค์การอนามัยโลก ให้เป็นทูตระดับโลกด้านโรคไม่ติดต่อ และเป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิบลูมเบิร์ก กล่าวว่า "ตอนผมเป็นเด็ก มีการโฆษณาบุหรี่ที่ให้คนแสดงเป็นแพทย์ มาพูดถึงประโยชน์ต่อสุขภาพของบุหรี่ ปัจจุบันแม้จะมีการห้ามโฆษณาบุหรี่แล้ว แต่บริษัทยาสูบยังคงปิดบังความจริงถึงอันตรายของผลิตภัณฑ์ยาสูบ และหาหนทางใหม่ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมาย ซึ่งมุ่งคุ้มครองสุขภาพของประชาชน โครงการ STOP จะทำหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภค โดยการเปิดโปงยุทธวิธีที่ซ่อนเร้น ของอุตสาหกรรมยาสูบและการตลาดที่มุ่งเน้นไปที่เด็กๆ"
รศ.ดร.นันทวรรณ วิจิตรวาทการ ประธาน GGTC กล่าวว่า "ทุนสนับสนุนจากมูลนิธิบลูมเบิร์กต่อโครงการ STOP จะช่วยทำให้เราสามารถเจาะลึกและเปิดโปงพฤติกรรมที่ซ่อนเงื่อนและหลอกลวงได้มากย่ิงขึ้นไปอีก เพราะไม่ว่าจะเจาะลึกลงไปที่ใดในโลก จะพบว่า อุตสาหกรรมยาสูบได้หาหนทางและโอกาสทางการตลาดอย่างไร้จริยธรรมในการจับกลุ่มลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะอย่างย่ิงในประเทศที่มีรายได้ปานกลาง และรายได้น้อย แม้บางประเทศสามารถมีมาตรการต่างๆ แต่อัตราการสุบบุหรี่ในประทเศกำลังพัฒนาหลายประเทศยังคงสูงกว่า ร้อยละ 40 การดำเนินการอย่างเข้มแข็งที่จะสกัดกั้นความพยายามในการขยายตลาดของอุตสาหกรรามยาสูบ จึงเป็นภารกิจสำคัญในการลดการบริโภคยาสูบ"
ดร.เทโดรส อัดฮานอม กีเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก กล่าวว่า "การดำเนินโครงการ STOP จะเป็นแรงหนุนต่อความพยายามขององค์การอนามัยโลกในการลดการบริโภคยาสูบทั่วโลก รวมถึงการดำเนินการตามกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบ (Framework Convention on Tobacco Control หรือ FCTC) ซึ่งเป็นหนึ่งในสนธิสัญญาขององค์การสหประชาชาติที่มีประเทศร่วมลงนามมากที่สุดถึง 181 ประเทศ มาตรา 5.3 ของกรอบอนุสัญญาฉบับนี้กำหนดให้รัฐภาคีปกป้องนโยบายสาธารณสุขจากอิทธิพลของอุตสาหกรรมยาสูบ และโครงการ STOP เพื่อปกป้องผู้คนจากมหันตภัยของยาสูบ
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเข้าไปที่ www.bloomberg.org
ข้อมูลโดย : สุขสันต์ เสลานนท์ กองบรรณาธิการ Smartonline
วันที่ 31 สิงหาคม 2561