บุหรี่ไฟฟ้ามีฤทธิ์ทำลายสมองและทำให้เกิดการเสพติด
คอลัมน์ : จับกระแส
ศ.ดร.สแตนตน แกลนซ์ จากศูนย์วิจัยและศึกษายาสูบ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ณ ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ เมื่อครั้งได้มาร่วมบรรยายเรื่อง "E - cigarettes : A Global Publice Health Emergency" ในการประชุมบุหรี่กับสุขภาพ ครั้งที่ 18 เมื่อวันที่ 20-21 มิถุนายน 2562 คือ
"เมื่อเด็กๆ สูบบุหรี่ไฟฟ้า จะหายใจเอาสารโพไพลีนไกลคอล นิโคติน และสารเติมแต่งรสกลิ่นที่มีอันตรายเข้าไป แม้ว่าสารแต่งกล่ินรสเหล่านี้ โดยปกติเป็นสารที่รับประทานได้ แต่เมื่อนำมาใช้กับบุหรี่ไฟฟ้าผ่านทางการสูดไอระเหยจะมีฤทธิ์ทำลายปอดและหลอดเลือด
เด็กๆ มักเข้าใจว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีอันตราย แต่ที่จริงแล้วบุหรี่ไฟฟ้าทำให้เกิดโรคปอด โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหอบหืด พบว่า เด็กที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าจะมีอัตราการขาดเรียนสูงกว่าเด็กทั่วไป เนื่องจากปัญหาสุขภาพปอด
นอกจากนี้ สารนิโคตินในบุหรี่ยังมีฤทธิ์ทำลายสมองและทำให้เกิดการเสพติด ทั้งนี้ เพราะหากเด็กติดแล้ว บริษัทบุหรี่ไฟฟ้าจะได้ขายบุหรี่ไฟฟ้าได้มากขึ้น อย่างต่อเนื่องไปเป็นสิบๆ ปี
เด็กๆ คิดว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเพียงไอน้ำ ที่มีกล่ินรสที่ไม่อันตราย แต่ที่จริงแล้วไม่มีน้ำในบุหรี่ไฟฟ้า มีแต่นิโคติน โพไพลีนไกลคอล สารเติมแต่งรสกลิ่นที่อันตราย และเมื่อสูบเข้าไปจะได้รับฝุ่นละอองขนาดเล็กมากที่สามารถเข้าสู่ปอด กระแสเลือดและเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย เกิดการอักเสบ รบกวนการทำงานปกติของร่างกาย ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่า บุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายเทียบเคียงได้กับบุหรี่ธรรมดา บุหรี่ไฟฟ้าก็ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ โดยควันพิษจากบุหรี่ไฟฟ้า มาจากไอระเหยที่ผู้สูบหายใจออกมา
ปกติเวลาพบคนกำลังสูบบุหรี่ไฟฟ้า จะเห็นมีกลุ่มหมอกควันจำนวนมากที่เป็นมลพิษ ซึ่งจากการศึกษา พบว่า ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดคนสูบบุหรี่ไฟฟ้า จะได้รับสารนิโคติน และสารพิษต่างๆ เข้าสู่ร่างกายได้ ดังนั้น ถ้ามีคนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้ามาสูบใกล้ๆ เราบอกให้เขาไปจากตรงนั้นซะ
ข้อมูล สุขส้นต์ เสลานนท์ กองบรรณาธิการ SmartNews
ในงานการประชุมบุหรี่กับสุขภาพแห่งชาติ วันที่ 20 มิถุนายน 2562
เผยแพร่ 14 สิงหาคม 2562