ดีเดย์ 9 ธันวาคม บังคับใช้กฎหมายซองบุหรี่แบบเรียบ
คอลัมน์ : จับกระแส
"มาตรการซองบุหรี่แบบเรียบ" ของประเทศไทย ตามพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2560 โดยกระทรวงสาธารณสุข เริ่มบังคับใช้กฎหมายนี้เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเซีย และเป็นประเทศอันดับที่ 11 ของโลกที่มีกฎหมายนี้
โดยซองบุหรี่แบบเรียบเป็นมาตรการตาม "กรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก" ที่ได้แนะนำให้ประเทศสมาชิกปฏิบัติตาม เนื่องจากซองบุหรี่แบบเรียบจะช่วยลดความดึงดูดของซองบุหรี่ ป้องกันการใช้ซองบุหรี่เป็นพื้นที่โฆษณา ป้องกันการใส่ข้อความชวนเชื่อ เช่น อันตรายน้อยกว่า ทำให้ภาพคำเตือนมีความชัดเจนใหญ่ขึ้น
ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้ (ศจย.) ได้สำรวจความคิดเห็นของเยาวชนไทยต่อซองบุหรี่แบบเรียบ โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนมัธยมศึกษาและนักศึกษาอุดมศึกษา อายุ 15-24 ปี จำนวน 1,239 คน ซึ่งผลการศึกษา พบว่า กลุ่มวัยร่นุที่ไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อนเป็นกลุ่มที่ตอบสนองต่อภาพคำเตือนสุขภาพบนซองบุหรี่แบบเรียบมากที่สุด โดยพบ มีความมั่นใจไม่สูบบุหรี่เพิ่ม 13 เท่า ส่วนกลุ่มวัยรุ่นที่เคยสูบบุหรี่มาก่อน พบว่า มีความมั่นใจที่จะไม่กลับไปสูบบุหรี่เพิ่มเกือบ 4 เท่า และซองบุหรี่แบบเรียบส่งผลให้วัยรุ่นประมาณ 2 ใน 3 ไม่อยากซื้อบุหรี่ และวัยรุ่นประมาณครึ่งหนึ่งเห็นอันตรายจากบุหรี่มากกว่าซองแบบเดิม
ดังนั้นจากผลการศึกษานี้ ทำให้มั่นใจว่า มาตรการซองบุหรี่เรียบเป็นอีกมาตรการที่ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพราะจะเสริมมาตรการอื่นๆ ในการป้องกันนักสูบหน้าใหม่ของประเทศไทย เช่นห้ามโฆษณาสื่อสารการตลาด และห้ามขายบุหรี่แบ่งชายแบบแยกมวน
ตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2562 บุหรี่ซิกาแรตที่วางขายในประเทศไทย ต้องเป็นซองบุหรี่ซิกาแรตรูปแบบใหม่เท่านั้น ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค และพนักงานเจ้าหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ จะลงพื้นที่บังคับใช้กฎหมายและดำเนินคดีทันทีกับผู้ผลิต ผู้นำเข้าและผู้ขาย รายใดฝ่าฝืนกฎหมาย ยังขายบุหรี่ซองรูปแบบเก่า ร้านค้าจะมีความผิดฐานขายผลิตภัณฑ์ยาสูบที่มิไ้ดจัดให้มีหีบห่อตามที่กฎหมายกำหนด ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 40,000 บาท ตามมาตรา 38 พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2560
มีข้อสงสัยสอบถามได้ที่กองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กรมควบคุมโรค โทร.02 590 3852
ข้อมูลจาก : กองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กรมควบคุมโรค
วันที่ 6 ธันวาคม 2562