บันทึกไว้ในความทรงจำ

คอลัมน์ : เรื่องเล่าประสบการณ์ตรง

ความจริงที่ปวดร้าวที่สุดในชีวิต ...ย้อนไปเมื่อ 8 ก.ค. 2562 เป็นวันที่ลูก ๆ มีความสุขมาก ได้ส่งป๊ะกับมะ (ป๊ะกับมะ เป็นคำเรียก พ่อกับแม่ ของคนอิสลาม) เพื่อเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ที่เมืองเม็กกะ ป๊ะมีโรคประจำตัว คือโรคหัวใจตั้งแต่ปี 2558 พบแพทย์และรับยาตลอดกับแพทย์ประจำตัวที่ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.หาดใหญ่) ไม่เคยป่วยถึงขั้นแอดมิดและสุขภาพร่างกายแข็งแรงมาตลอด

การใช้ชีวิตช่วงที่ไปประกอบพิธีฮัจญ์ ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ป๊ะมีความสุขมาก วิดีโอคอลมาหาลูกๆ เดินไปละหมาดเหมือนคนทั่วไป มาช่วงหลังๆ เริ่มมีอาการปวดหน้าอกมากและร้าวไปถึงขาซ้าย จนต้องแอดมิด เข้าโรงพยาบาล 2 วัน หลังออกจากโรงพยาบาล ก็เริ่มปวดมากขึ้นเรื่อยโดยเฉพาะที่ทรวงอก แผ่นหลัง แต่ก็พยายามทำพิธีจนครบขั้นตอน จนป๊ะได้ฮัจญ์ที่สมบูรณ์ทุกอย่าง หลังจากนั้นก็ทรุดลงต้องเข้าโรงพยาบาลอีกรอบก่อนบินกลับไทย .......

วันที่รอคอยการกลับมาของป๊ะกับมะก็มาถึง ลูก ๆ ไปยืนรอรับที่สนามบินหาดใหญ่ เป็นภาพที่อยู่ในความทรงจำไม่มีวันลืม ป๊ะนั่งวิลแชร์ออกมาด้วยน้ำตานองหน้าเมื่อเห็นหน้าลูก ลูก ๆ โผเข้าไปกอดและหอมแก้ม ร่างกายผอมลงไปมาก ได้บอกกับป๊ะว่า "ไม่เป็นไร ลูกจะพาไปหาหมอนะ"

ตรงไปที่แผนกฉุกเฉิน ณ. รพ.รัฐแห่งหนึ่งในหาดใหญ่ เข้าไปตั้งแต่บ่ายจนถึง 2 ทุ่ม ผลตรวจออกมาคือ กล้ามเนื้ออักเสบ หมอฉีดยาแก้ปวดแล้วให้กลับบ้านได้ กลับบ้าน ป๊ะปวดกระดูกทุกส่วนมากขึ้นเรื่อยๆ จะยืน จะนั่งต้องคอยประคองกันตลอดเวลา จึงต้องกลับเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง ผลตรวจครั้งนี้คือ เห็นจุดขาวตรงหน้าอกด้านขวา ถูกส่งตัวไปพบแพทย์เฉพาะทาง หมอฉีดมอฟีนระงับอาการปวดแล้วให้กลับบ้านได้ ตกกลางคืน ป๊ะปวดทั้งตัว จึงตัดสินใจพาไปตรวจที่ รพ.เอกชนในหาดใหญ่ เล่าอาการและการรักษาที่ผ่านมาของป๊ะ และขอให้หมอทำ C-T สแกน (เอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์)

หมอเรียกเข้าไปดูฟิล์มเอ็กซเรย์ ภาพที่เห็นคือ ปอดป๊ะขาวโพลนไปทั่ว พอผล C-T สแกน ออกมาหมอบอกว่า "ป๊ะป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย" ลุกลามกระจายลงกระดูกทั่วร่างกาย อาจจะอยู่ได้ไม่นาน จึงถามหมอว่าทำไมก่อนหน้านี้ ไม่มีอะไรผิดปกติ หมออธิบายว่า โรคนี้จะเห็นผลตอนที่สภาพร่างกายอ่อนแอ และส่วนใหญ่เจอระยะสุดท้าย

แม้จะรู้อย่างนั้นแล้ว ก็ตัดสินใจพาป๊ะขึ้นมารักษาตัวที่ กทม.ด่วน โดยไม่ได้บอกป๊ะกับมะ และทุกคนที่บ้านว่าเป็นอะไร คิดอย่างเดียวว่าต้องหาย มีผู้ใหญ่ทาง กทม ได้ติดต่อโรงพยาบาล ได้รับการรักษาตัวต่อทันที  อาการเริ่มดีขึ้น ทำให้มีความหวัง แม้จะต้องใช้เวลานานแค่ไหน ทุกวันที่ขับรถออกจากบ้านไปทำงานน้ำตาก็ไหลออกมาตลอดทาง

หลังออกจาก รพ.ได้ 1 สัปดาห์ อาการทรุดลงจนต้องเข้าฉุกเฉินอีกและรักษาได้เพียง 1 สัปดาห์ ป๊ะบอกว่าอยากกลับบ้านเกิดที่สงขลา จึงได้ติดต่อรถโรงพยาบาล ออกเดินทางไปหาดใหญ่ จับมือป๊ะไปตลอดทาง ป๊ะกำมือเราแน่นมากก่อนจะคลายมือลง แล้วก็หลับตาลงไปโดยไม่ฟื้นมาอีกเลย ในเวลา 00.25 แถวทับสะแก ความรู้สึกในตอนที่ต้องนั่งจับมือ นั่งมองร่างที่ไร้วิญญาณ มันจะติดตาตรึงใจลูกคนนี้ไม่มีวันลืมเลือน #บันทึกรักของพ่อ ป๊ะกลับไปสู่ความเมตตาของอัลลอฮ์เมื่อวันที่ 12/11/62 เวลา00.25 น.ด้วยวัย63 ปี ด้วยรักและดุอา

ครูวาสนา พงศ์เพ็ชร (ลูกสาวคนโตของป๊ะ)

ปล.รักใครเตือนให้เลิกสูบบุหรี่นะคะ

มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ขอขอบพระคุณคุณครูวาสานาที่แบ่งปันประสบการณ์ตรงของคุณพ่อ เพื่อเป็นวิทยาทาน และเสียใจกับความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ด้วยค่ะ อย่างที่คุณครูท้ิงท้ายไว้ว่า รักตัวเอง ให้เลิกสูบ รักใครๆ เตือนให้เลิกสูบบุหรี่...บุหรี่อันตรายกว่าที่คุณคิด บุหรี่ทุกชนิดล้วนมีอันตราย .....

SmartNews เผยแพร่ 19 ธันวาคม 2562