หนุนรองนายกฯอนุทิน ย้ำบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตราย

คอลัมน์ : สารเยาวชน 

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสุขภาพ (Health Promotion Board) กระทรวงสาธารณสุข สาธารณรัฐสิงคโปร์ สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท) เป็นเจ้าภาพร่วมจัดการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การดำเนินงานด้านสุขภาพเด็กและเยาวชนไทยระหว่างประเทศ ครั้งที่ 2 ระหว่างเยาวชนประเทศไทย กับเยาวชนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และ Health Promotion Board (HPB) สาธารณรัฐสิงคโปร์ ในหัวข้อ “บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า พิษร้ายเยาวชนยุคใหม่” เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 

นายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท) กล่าวว่า “ประเทศสิงคโปร์ นับเป็นต้นแบบของประเทศที่มีการคุ้มครองสุขภาพของประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องการควบคุมบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งข้อมูลจากปี 2017 พบว่าอ "สิงคโปร์ มีผู้สูบบุหรี่เพียง 350,000 คน ขณะที่มีเด็กและเยาวชนอายุระหว่าง 13-17 ปี สูบบุหรี่เพียง 14,000 คน ซึ่งแนวโน้มการสูบบุหรี่ของสิงคโปร์ก็ลดลงอย่างต่อเนื่องอีกด้วย” สำหรับกรณีบุหรี่ไฟฟ้าที่ประเทศไทยกำลังถกเถียงถึงมาตรการควบคุมและกฎหมายห้ามจำหน่ายและนำเข้านั้น ประเทศสิงคโปร์ก็มีกฎหมายห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าประเภทของเล่น (toy Cigarettes) ตั้งแต่ปี 1993 และมีกฎหมายห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าทุกประเภทตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งถือว่ามีมาตรการบังคับใช้ก่อนประเทศไทย จากกรณีนี้จึงทำให้เห็นว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว ก็มีกฎหมายควบคุมไม่ต่างจากประเทศอื่น ๆ ส่งผลทำให้ภาพรวมของสุขภาพของประชาชนดีที่สุด

นายสุวรรณณุวงศ์ สุมนตรี ประธานเยาวชนรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ (Lao Youth Anti smoking) ซึ่งสังกัดกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้กล่าวว่า “ปัจจุบันในประเทศลาว มีผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่เฉลี่ยต่อวัน 13 คน หรือคิดเป็น 4,745 คนต่อปี และเยาวชนมีแนวโน้มใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ทั้งที่ในประเทศลาว มีกฎหมายห้ามนำเข้าและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งผู้สูบเชื่อว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีความปลอดภัยกว่าบุหรี่ธรรมดา และบางรายเชื่อว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะเป็นผลิตภัณฑ์ในการช่วยเลิกบุหรี่ ” ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่ามีกลุ่มอุตสาหกรรมยาสูบอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้หรือไม่

จากการประชุมดังกล่าวทางหน่วยงานเยาวชนทั้ง 3 ประเทศ และ Health Promotion Board (HPB) สาธารณรัฐสิงคโปร์ จึงเตรียมผนึกกำลังเพื่อสร้างมาตรการการรับรู้ที่ถูกต้อง และเข้มงวดในด้านกฎหมาย สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท) จึงขอเป็นกำลังใจให้รัฐบาล โดยเฉพาะนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ) ยืนหยัดมาตรการห้ามนำเข้า และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดต่อไป

ข้อมูลโดย : นายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ ประธาน (ยท.)

smartnews เผยแพร่ 16 ธันวาคม 2562