เรื่องเล่าในพื้นที่

คอลัมน์ : ข่าวรอบโลก

นางสเตฟานี วิกเกิลซ์เวิร์ธ อายุ 36 เคยสูบบุหรี่จนลิ้นเป็นแผลซ้ำๆ และปล่อยไว้เนิ่นนานจนกลายเป็นมะเร็ง ทีมแแพทย์จำเป็นต้องผ่าตัดผ่านลำคอ และเอาลิ้นส่วนที่เป็นมะเร็งครึ่งหนึ่งออกมา จากนั้นปลูกถ่ายลิ้นใหม่จากแขนซ้ายของเธอ และนำล้ินมาแต่งหลังการผ่าตัด น้ำเสียงของเธอจะแหบแห้ง และต้องกินอาหารผ่านสายยาง แต่ยังดื่มน้ำเองได้ 

นางสเตฟานีกล่าวขณะฟื้นฟูร่างกายจากการผ่าตัดว่า "แชนที่ถูกเอาผิวหนังออกไปเจ็บปวดมากกว่าปากจนไม่น่าเชื่อ เพื่อนและครอบครัวรู้ว่า ฉันมองโลกในแง่ดี เมื่อคุณเป็นมะเร็ง เหมือนกำลังถูกบังคับให้เข้าสู่ชมรม ซึ่งฉันไม่อยากเข้าเลย ฉันอยากได้เสียงตัวเองกลับคืนมา แต่ทำไม่ได้แล้ว จึงจำเป็นต้องยอมรับมัน"

ย้อนไปเมื่อปี 2556 นางสเตฟานี มีอายุ 30 ปี เร่ิมรู้สึกลิ้นเหมือนหนามตำ แสบเล็กน้อย และขาพร้อมๆ ปวดไมเกรน จึงเริ่มค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตตั้งแต่เดือนมกราคม 2556 ก่อนจะทราบว่ามีเซลล์มะเร็งสความอส ซึ่งเป็นมะเร็งผิวหนังชนิดหนึ่ง ที่ปกติแล้วจะมีผลต่อผู้ชายที่มีอายุเกิน 45 ปี 

นางสเตฟานีกล่าวว่า ตอนนั้นรู้สึกแย่จริงๆ  "เมื่อหมอบอกว่าฉันเป็นมะเร็งปาก ทุกอย่างที่ฉันได้ยินกลบเสียงทุกเสียง "ฉันเป็นนักสูบจึงรู้สึกเหมือนสมควรแล้ว แต่แค่ต้องการอยู่กับลูกๆ" 

ทีมแพทย์ตัดสินใจแนวทางที่ดีที่สุดคือ เอาล้ินส่วนที่เป็นมะเร็งออกเมื่อวันที่ 16 พ.ค.2556 ส่วนนายแกรีทำงานในกองทัพ ได้รับความเห็นอกเห็นใจ ให้ออกมาดูแลภรรยาที่บ้านและช่วยขับรถพาภรรยาไปบำบัด

นับตั้งแต่ตรวจพบมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในลำคอ นางสเตฟานีเข้ารับการรักษาด้วยรังสีถึง 35 ครั้ง 

"เพื่อนๆ และสามีผลัดกันขับรถพาไปโรงพยาบาล  ขณะที่ฉันห่อตัวด้วยผ้านวม" แม้ว่าการเดินทางยากลำบากและขั้นตอนการรักษาจะเจ็บปวด แต่นางสเตฟานียังเข้ารับการบำบัดต่อไปและมองในแง่ดี "ฉันคิดถึงทุกอาหารโปรดที่เราเคยกินกับครอบครัว  แม้ว่าการรักษาจะยากเย็น แต่ยังยิ้มได้และขอบคุณครอบครัวและเพื่อนทุกคน" 

ข้อมูลจาก ข่าวสดออนไลน์ 

Smartnews เผยแพร่ 27 ธันวาคม 2562