ปอดอักเสบ จากบุหรี่ไฟฟ้าผสมน้ำมันกัญชา
คอลัมน์ : จับกระแส
มีข่าวออกมาเมื่อเดือนธันวาคม 2562 ว่าพบผู้ป่วย โรคปอดอักเสบรายแรกในประเทศไทย จากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ทาง Smartnews จึงได้ขอเข้าสัมภาษณ์ นายแพทย์สิทธิ์เทพ ธนกิจจารุ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านปอด โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ซึ่งเป็นคุณหมอที่รักษาผู้ป่วยรายดังกล่าว ถึงที่มาและสาเหตุของการเกิดโรคปอดอักเสบ เพื่อเตือนผู้สูบและผู้ที่มีโอกาสได้สัมผัสละอองบุหรี่ไฟฟ้าถึงอันตรายและเผยแพร่สู่สาธารณะ
smartnews : ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบ มีอาการบ่งบอกอย่างไร?
คุณหมอ : ผู้ป่วยรายนี้มีอายุ 48 ปี เป็นผู้ป่วยชาย ถูกวินิจฉัยว่าป่วยเป็นมะเร็งปอด รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ รักษามะเร็งปอดจนดีขึ้นเป็นลำดับ สามารถกลับบ้านได้ ผู้ป่วยดูสื่อออนไลน์ทราบข้อมูลเกี่ยวกับ การใช้น้ำมันกัญชาช่วยรักษาโรคมะเร็งได้ และการสูบบุหรี่ไฟฟ้าชนิดที่เป็นน้ำมันกัญชาจะเป็นผลดีต่อปอด จึงสั่งซื้อบุหรี่ไฟฟ้าดังกล่าวมาลองสูบดู หลังจากซื้อมาสูบเพียงไม่กี่วันก็เริ่มมีอาการอ่อนเพลียและมีอาการเหนื่อยมากขึ้นตามลำดับ
จนกระทั่งหลังจากที่เริ่มสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้น้ำมันกัญชาเพียง 1-2 วัน ผู้ป่วยต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน ด้วยอาการไข้ เหนื่อยหอบ หมอวินิจฉัยว่ามีปอดอักเสบ
หลังจากเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลอาการยังคงทรุดลง จนกระทั่งเกิดภาวะการหายใจล้มเหลวต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ญาติจึงได้ขอส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 ในช่วงเบื้องต้นที่เข้ารักษาผู้ป่วยต้องอยู่ในห้องไอซียู ต้องหายใจด้วยเครื่องช่วยหายใจเพื่อช่วยรักษาระดับออกซิเจนให้เพียงพอ จากลักษณะที่เห็นจากภาพเอ็กซเรย์และเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ของปอด ประกอบกับการที่ตรวจไม่พบเชื้อที่จะเป็นสาเหตุของปอดอักเสบ ร่วมกับข้อมูลที่ได้จากการสอบถามเพิ่มเติมจากภรรยาของผู้ป่วยว่าผู้ป่วยเริ่มสูบบุหรี่ไฟฟ้าผสมน้ำมันกัญชาก่อนหน้าที่จะป่วยเพียงไม่กี่วัน และจากการติดตามข่าวการเกิดโรคปอดอักเสบเฉียบพลันจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าประเภทนี้ หลายรายที่อเมริกา ผมจึงคิดถึงภาวะปอดอักเสบจากสาเหตุดังกล่าวเช่นกัน เมื่อเทียบเคียงลักษณะอาการของผู้ป่วย ระยะเวลาที่เร่ิมสูบบุหรี่ไฟฟ้า และลักษณะของการอักเสบในเนื้อปอดที่เห็นได้จาก TC scan แบบเดียวกับที่รายงานในอเมริกา จึงสรุปได้แน่นอนว่าเป็น "ปอดอักเสบจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า" จึงได้ให้การรักษาดัวยเสตียรอยด์ เพื่อระงับปฏิกิริยาอักเสบในเนื้อปอดที่เกิดจากสารที่เป็นพิษและเป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อปอด หลังจากเริ่มให้เสตียรอยด์อาการดีขึ้นเป็นลำดับ จนเช้าวันที่ 4 หลังเข้ารักษาใน รพ. ก็สามารถถอดเครื่องช่วยหายใจได้ และกลับบ้านได้ในที่สุด รวมเวลาที่ให้เสตียรอยด์อยู่ 2 อาทิตย์ หลังออกจากโรงพยาบาลผู้ป่วยก็แข็งแรงขึ้นตามลำดับ จนล่าสุดใช้ชีวิตได้เป็นปกติแล้ว
Smartnews : โรคปอดอักเสบเกิดได้อย่างไร? สาเหตุหลักมาจากอะไร?
คุณหมอ : ปัญหาเรื่องปอดอักเสบที่เกิดขึ้นจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ในอเมริกามีผู้ป่วยมากถึง 2,000 คน และเสียชีวิตคิดเป็น 2% ถือว่าไม่น้อย 80 เปอร์เซ็นต์ เกิดจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าผสมน้ำมันกัญชา ส่วนอีก 20 เปอร์เซนต์เกิดจาก THC เป็นสารเคมีหลักในกัญชา ซึ่งมี 2 ตัว ตัว THC และ CBD THC คือ สารที่ทำให้เราเคลิบเคลิ้ม หลับสบาย นิยมใช้เพื่อเป็นสารเสพติด ซึ่งในบุหรี่ไฟฟ้าจะมีสารตัวนี้ และมีผู้ป่วยอีกครึ่งหนึ่งที่เป็นปอดอักเสบ เนื่องจากสูบบุหรี่ที่มีสารนิโคติน ก็เกิดโรคได้เช่นกัน ซึ่งทาง FDA องค์การอาหารและยา ก็ยังไม่กล้าสรุปว่า เป็นสารตัวใดตัวหนึ่ง แต่ที่แน่ๆ บุหรี่ไฟ้ฟาทำให้ปอดอักเสบแน่นอน จากการศึกษาจากตัดชิ้นเนื้อ ปอด ที่ตัดออกมาตรวจ ก็แสดงผลอย่างชัดเจน อย่างผู้ป่วยรายนี้ มาด้วยอาการเป็นไข้ คลื่นไส้ อ่อนเพลีย หลังเริ่มสูบบุหรี่ไฟฟ้าได้เพียงไม่กี่วัน ประเด็นสำคัญคือ การที่คิดถึงภาวะนี้จะต้องมีประวัติสูบบุหรี่ไฟฟ้ามาภายใน 3 เดือน ในบางรายจะเริ่มแสดงอาการภายใน 7 วัน โดยทั่วๆ ไป จะอยู่ในช่วงระยะเวลาไม่เกิน 3 เดือน โดยประมาณ
Smartnews : มีโอกาสกลับมาเกิดโรคใหมได้อีกมั๊ย
คุณหมอ : เกิดซ้ำได้อย่างแน่นอน เพราะเกิดจากสารที่เป็นพิษ ที่เกิดจากการเผาไหม้บางอย่างในบุหรี่ไฟฟ้า ที่ทำให้เกิดโรค ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคที่หากรักษาหายก็จะหายไปเลย แต่นี่เกิดจากสารพิษในบุหรี่ ร่างกายไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันต่อสารพิษได้ และไม่มียาป้องกัน การป้องกันที่ดีที่สุด ที่จะไมให้กลับไปเกิดโรคอีกก็คือ ไม่กลับไปสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่ใส่น้ำมันชนิดนั้น หรือบุหรี่ไฟฟ้าชนิดใดๆ อีก ประเด็นสำคัญที่เราต้องรู้ คือ บุหรี่ไฟฟ้ามีผลร้ายต่อร่างกาย
การป้องกันแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ
1. กลุ่มที่ไม่เคยสูบส่วนใหญ่เป็นเยาวชน ต้องรู้ว่ามันส่งผลเสียต่อปอดของเรา และได้มีการพิสูนจ์แล้วว่า บุหรี่ไฟฟ้าตัวนำไปสู่สารเสพติดอื่นๆ การสูบบุหรี่ไฟฟ้าก็มีอันตรายอยู่แล้ว อย่างถ้าคุณกลัวฝุ่น PM 2.5 ก็ต้องรู้ว่า บุหรี่ไฟฟ้าก็เหมือนกัน และยังมีสารเคมีที่เป็นพิษและเป็นอันตรายต่ออีกหลายชนิด
2. กลุ่มที่สูบบุหรี่อยู่แล้ว สำหรับผลต่อปอดในระยะสั้น มีการศึกษายืนยันอยู่แล้วว่า เซลส์ปอดมีความเสี่ยงต่อสารเคมีชนิดต่างๆ ที่มีในบุหรี่ไฟฟ้า เพราะในตัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ในตัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เมื่อมีการเผาให้ร้อนจนเป็นไอ ก็ล้วนแต่มีสารพิษทั้งนั้น มีความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาต่อเนื้อเยื่อปอดในรูปแบบใหม่ที่แตกต่างไปจากบุหรี่ธรรมดา เท่ากับเป็นการซ้ำเติมปอดและร่างกายเพิ่มเติมจากการสูบบุหรี่แบบเดิมอยู่ ฉะนั้นอย่าคิดลองของใหม่ และเลิกใช้ไปเลย
3. กลุ่มสูบ และกำลังหาวิธีเลิก อย่างที่ทราบกัน ยังไม่มีทางการแพทย์ไหนยืนยันการใช้บุหรี่ไฟฟ้าจะช่วยเลิกบุหรี่ธรรมดาได้ แทนที่จะเลิกได้มักจะลงเอย เป็นการเปลี่ยนการติดยาในอีกรูปแบบนึงเท่านั้น นิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้าก็ทำให้ติด และสารพิษอื่นๆ ก็เพิ่มขึ้น หากต้องการเลิก ควรใข้วิธีอื่นที่การแพทย์ยืนยันว่า เลิกได้แน่นอนและปลอดภัยดีกว่า
ข้อควรระวัง สำหรับวิตามินอี และส่วนผสมอื่นที่ดูว่าดีและปลอดภัย เมื่อใชัภายนอก แต่ถ้าทำให้เกิดการเผาไหม้ และสูดเข้าปอดก็จะเป็นผลเสียและอันตรายมากกว่าครับ
ข้อมูลโดย นพ.สิทธิ์เทพ ธนกิจจารุ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านปอด โรงพยาบาลวิชัยยุทธ
สัมภาษณ์และเรียบเรียง โดย สุขสันต์ เสลานนท์ Smartnews
วันที่ 30 มกราคม 2563