มะเร็งคอหอย พบน้อยในคนไทย แต่แนวโน้มเพิ่มขึ้น

คอลัมน์ : จับกระแส

มะเร็งคอหอย ส่วนช่องปาก พบน้อยในคนไทยแต่แนวโน้มเพิ่มขึ้น สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ ชี้มะเร็งโคนลิ้น แม้พบในไทยน้อย แต่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น สำรวจตัวเองหากมีอาการผิดปกติ มีอาการกลืนลำบาก กลืนเจ็บ ปวดหู เลือดออกทางช่องปาก มีก้อนที่คอ

โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักมาพบแพทย์ด้วยอาการเสียงแหบ เสียงเปลี่ยน โดยไม่ค่อยมีอาการเจ็บคอ ซึ่งหากรอยโรคอยู่ที่ตำแหน่งของสายเสียง (laryngeal cancer) จะแสดงอาการนี้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ทำให้วินิจฉัยโรคได้เร็ว มีโอกาศรักษาให้หายขาดได้ แต่หากเป็นที่ตำแหน่งคอหอยส่วนล่าง (hypopharyngeal cancer) ในระยะแรกเสียงจะไม่แหบ แต่จะรู้สึกเจ็บหรือร้อนในคอ อาการคล้ายก้างปลาติดคอ กลืนแล้วเจ็บ ผู้ป่วยมักคิดว่าคออักเสบ อาจซื้อยามากินเอง ต่อมามะเร็งลุกลามไปยังส่วนต่างๆ ของกล่องเสียง จึงทำให้เกิดเสียงแหบ

สาเหตุมาจาก : สาเหตุที่บ่งชี้ได้ชัดเจน คือ การสูบบุหรี่ และจะพบมากขึ้นในผู้ที่ดื่มสุราด้วย การสูดเอาสารระคายเข้าไป หรือการใช้เสียงผิดปกติ ทำให้กล่องเสียงมีการอักเสบบ่อยๆ รวมถึงการติดเชื้อ  HPV เป็นเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายได้ง่ายผ่านการสัมผัสกับเชื้อโดยตรง หรือการมีเพศสัมพันธ์ หรือมีคู่นอนหลายคน และมีเพศสัมพันธ์ทางปาก

โดยทั่วไปแพทย์แผนปัจจุบันจะรักษามะเร็งตามระยะของโรคที่เป็น แบ่งออกเป็น 4 ระยะ ตามมาตรฐานสากล คือ

ระยะที่ 1: มะเร็งอยู่เฉพาะอวัยวะที่เป็นโรคเท่านั้น ไม่ลุกลามหรือแพร่กระจายออกไป

ระยะที่ 2: มะเร็งยังอยู่เฉพาะอวัยวะที่เป็นโรค แต่มีขนาดโตขึ้น และเริ่มรบกวนการทำหน้าที่ของอวัยวะนั้นๆ

ระยะที่ 3: มะเร็งลุกลามมากขึ้น อวัยวะที่เป็นโรคมักถูกทำลายจนผิดสภาพ และทำหน้าที่ผิดปกติไป และมีต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียงโตขึ้นอย่างชัดเจน

ระยะที่ 4: มะเร็งมีการลุกลามออกไปยังอวัยวะใกล้เคียง และหรือแพร่กระจายไปทางกระแสเลือด ไปที่อวัยวะอื่นที่อยู่ห่างจากต้นกำเนิดของมะเร็ง เช่น ปอด ตับ กระดูก และสมอง เป็นต้น

การป้องกันคือ  เลิกสูบบุหรี่ งดดื่มสุรา มีเพศสัมพันธ์แบบป้องกันและปลอดภัย และสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ  เพราะมือเป็นอวัยวะส่วนที่สัมผัสสิ่งต่างๆ มากมาย และยังสามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 19 ในช่วงสถานการณ์การระบาดอีกด้วย

ข้อมูล : รศ. นพ. ปารยะ อาศนะเสน ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา Faculty of Medicine Siriraj Hospital คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล  และสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

Smartnews เผยแพร่วันที่ 7 กรกฎาคม 2563