7 ประโยชน์สำคัญของ “สารต้านอนุมูลอิสระ”

คอลัมน์ : เก็บมาฝาก 

อนุมูลอิสระ (Free Radicals) หมายถึง โมเลกุล หรืออะตอมที่ไม่เสถียรเนื่องจากการขาดอิเล็กตรอน ที่อยู่รอบนอกสุดของอะตอม อนุมูลอิสระนี้ มีช่วงอายุสั้นเพียงแค่ไม่กี่เสี้ยววินาที แต่สามารถสร้างความเสียหายต่อ DNA ด้วยการแย่งจับอิเล็กตรอนของเซลล์อื่นในร่างกาย ที่เรียกว่าภาวะเครียดที่เกิดจากออกซิเดชัน (oxidative stress) ทำให้โมเลกุลของร่างกายไม่เสถียร เกิดความเสียหาย นำไปสู่การเกิดโรคและริ้วรอยบนร่างกาย และอาจเกิดการกลายพันธุ์จนกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้ ในภายหลัง

เราจึงมักจะต้องการสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะช่วยทำให้โมเลกุลที่ไม่เสถียรนี้มีความเป็นกลาง และช่วยปกป้องร่างกายจากการเสื่อมโทรมของเซลล์เหล่านี้  

   

อนุมูลอิสระมาจากไหนบ้าง? • มลภาวะทางอากาศ • การสูบบุหรี่ • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ • อาหารทอด • การอักเสบ • การฉายรังสี • ยาและสารเคมีบางชนิด • ไวรัสบางชนิด

สารต้านอนุมูลอิสระ ดีต่อสุขภาพอย่างไร? สำคัญต่อร่างกายอย่างไร?

มีงานวิจัยมากมายบ่งชี้ว่า สารต้านอนุมูลอิสระสามารถลดความเสี่ยงต่อโรคหลายโรคโดยเฉพาะโรคเรื้อรังที่สัมพันธ์กับอาหาร เช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคสมองได้ แล้วยังช่วยชะลอกระบวนการบางขั้นตอนที่ทำให้เกิดความแก่โดยปกติร่างกายสามารถกำจัดอนุมูลอิสระก่อนที่มันจะทำอันตรายได้

7 ประโยชน์สำคัญของ “สารต้านอนุมูลอิสระ” 1. ชะลอวัย ชะลอกระบวนการที่ทำให้เข้าสู่วัยชรา (แก่ช้า) 2. ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง 3. ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอัลไซเมอร์ หรือภาวะสมองเสื่อม 4. ลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีในร่างกาย 5. ป้องกัน และลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด 6. ป้องกันโรคเส้นเลือดในสมองตีบ 7. เป็นเกราะในการป้องกันมลพิษต่างๆ จากสิ่งแวดล้อม

วิธีที่ทำให้ร่างกายมีสารต้านอนุมูลอิสระเยอะๆ

1. รับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผักและผลไม้รสเปรี้ยว สีเหลืองส้ม มีวิตามินเอ ซี และไลโคปีน (มะนาว ฝรั่ง มะเขือเทศ แครอท มะละกอ แตงโม ปลา ตับ ไข่แดง ฯลฯ)

2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

3. พักผ่อนให้เพียงพอ

4. งดสูบบุหรี่

5. งดดื่มแอลกอฮอล์

6. ลดการรับประทานอาหารทอด ทานผักและผลไม้ที่บำรุงผิว-ต้านมะเร็ง ที่มี “สารต้านอนุมูลอิสระ” สูง เพื่อลดความเสี่ยง เพื่อสุขภาพกายและผิวที่ดี ที่สำคัญ #เลิกสูบลดเสี่ยง

ข้อมูล Sanook Health รวบรวมข้อมูลมาฝากกัน ภาพ : iStock

Smartnews เผยแพร่วันที่ 18 กรกฎาคม 2563