สายเลิกบุหรี่ 1600 พบ หญิงตั้งครรภ์โทรขอรับคำปรึกษาช่วยเลิกบุหรี่มากขึ้นกว่าปกติ
คอลัมน์ : จับกระแส
รศ.ดร.จินตนา ยูนิพันธุ์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์แห่งชาติ (ศบช.) หรือ สายเลิกบุหรี่ 1600 เปิดเผยว่า ในช่วงมาตรการล็อคดาวน์ประเทศจากเหตุไวรัสก่อโรคโควิด 19 (COVID-19) ระบาดหนักที่ผ่านมา พบสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับการให้บริการของสายเลิกบุหรี่ 1600 โดยพบจำนวนหญิงตั้งครรภ์โทรเข้ามาเพื่อขอรับคำปรึกษาช่วยให้เลิกบุหรี่มากขึ้นกว่าปกติจากเดิม ส่วนเหตุผลที่มาใช้บริการเนื่องจากกลัวว่าเด็กในครรภ์จะเป็นอันตรายทั้งจากบุหรี่และโควิด 19
พ.ต.ท.อรัณ ไตรตานนท์ นายแพทย์ สบ 2 กลุ่มงานสูตินรีเวชกรรม โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า บุหรี่คือ สิ่งน่ากลัวสำหรับหญิงตั้งครรภ์ เพราะกระทบถึง 2 ชีวิต คือแม่และลูก โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) มีคำแนะนำแก่ผู้หญิงรวมถึงสามี ต้องหยุดสูบบุหรี่ทันทีที่ทราบว่าตั้งครรภ์ เนื่องจากสารอันตรายต่างๆ ที่อยู่ในบุหรี่ ไม่ว่าจะเป็นควันบุหรี่มือหนึ่งที่คุณแม่สูบเอง ควันบุหรี่มือสองจากสามีที่พ่นออกมา รวมถึงควันบุหรี่มือสามที่ติดตามผิวหนัง เสื้อผ้า พื้นห้อง เฟอร์นิเจอร์ แม้แต่ที่นอน ฯลฯ ล้วนมีผลกระทบต่อแม่และเด็กในท้อง ตั้งแต่ระหว่างตั้งครรภ์ จนคลอด และถึงเจริญวัย ซึ่งผลกระทบนี้มีทั้งเจ็บป่วยและอันตรายจนถึงชีวิต
พ.ต.ท.นพ.อรัณ อธิบายว่า ในควันบุหรี่ที่แม่สูบหรือได้รับ จะมีก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ที่ไปจับตัวกับฮีโมโกลบินแทนออกซิเจน เมื่อเนื้อเยื่อได้รับออกซิเจนน้อยลง ย่อมกระทบต่อการสร้างอวัยวะของทารกในครรภ์ ส่งผลให้สมองผิดปกติ เป็นโรคหัวใจแต่กำเนิด ผนังกั้นหัวใจรั่ว ปากแหว่งเพดานโหว่ ยังเสี่ยงคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักแรกคลอดจะน้อยกว่าปกติถึง 2 ขีด ส่วนแม่มีโอกาสครรภ์เป็นพิษ รกลอกตัวก่อนกำหนด แท้งในไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ และตกเลือดหลังคลอดมากกว่าปกติ และควันบุหรี่ยังส่งผลเสียต่อเด็กอย่างต่อเนื่องแม้จะเจริญวัยแล้ว
จากการศึกษาพบว่า เด็กที่ได้รับควันบุหรี่ตั้งแต่อยู่ในครรภ์จะมีความเสี่ยงเป็นภูมิแพ้และหอบหืดมากกว่า สามารถป่วยได้ตั้งแต่อายุน้อยกว่า 6 เดือน เหมือนเกิดมาแล้วก็ป่วยเลย พัฒนาการช้ากว่าเด็กทั่วไป ขณะที่พฤติกรรมและอารมณ์ก็ผิดปกติด้วย
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ online
Smartnews เผยแพร่ 17 สิงหาคม 2563