รมช.สธ. ยันจัดสรรวัคซีนครบ ชี้ ฉีดแล้วต้องเลิกสูบบุหรี่-ดื่มเหล้า ลดความเสี่ยง ช่วยให้มีประสิทธิภาพ
คอลัมน์ : จับกระแส
นายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) กล่าวว่า ยท. ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ยื่นข้อเสนอต่อ ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขอให้เร่งรัดการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ในกลุ่มเด็กและเยาวชน อายุระหว่าง 13-18 ปี ซึ่งเป็นนักเรียนและนักศึกษา ทั้งในระบบและกลุ่มที่เรียนของศูนย์การเรียน ภายใต้การดูแลของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งมีศูนย์การเรียนกว่า 70 แห่งทั่วประเทศ
เยาวชนกลุ่มนี้ มีสถานะเป็นทั้งผู้เรียนและแรงงานประกอบอาชีพ จึงมีความเสี่ยงได้รับเชื้อจากการทำงานนอกบ้าน ทั้งนี้ เยาวชนบางส่วนยังมีพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ เช่น การรวมกลุ่มดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ซึ่งอาจเป็นพาหะนำเชื้อไวรัสแพร่ระบาดในสถานศึกษาและชุมชนได้
ด้าน ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขจะเร่งผลักดันเพื่อให้เยาวชนในฐานะนักเรียน นักศึกษา ได้รับการจัดสรรวัคซีนอย่างถ้วนหน้าอย่างเร็วที่สุด ซึ่งการจัดสรรวัคซีนถ้วนหน้าถือว่าเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล รวมถึงเป็นไปตามแนวทางที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้
ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่มีนักเรียน นักศึกษา ในกำกับของตนเอง ยังคงต้องปฏิบัติตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เช่น การเว้นระยะห่างทางสังคม การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ และที่สำคัญที่สุดคือ การลด ละ เลิกการสูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากพฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้จะส่งผลทำให้การควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเป็นไปอย่างยากลำบาก และก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย สอดคล้องกับข้อมูลงานวิจัย ระบุว่า ผู้สูบบุหรี่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ได้มากกว่าคนปกติ 5-14 เท่า และเมื่อป่วยแล้วมักมีอาการรุนแรงกว่าคนทั่วไปที่ไม่สูบเลยอย่างชัดเจน ระบบภูมิคุ้มกันจะมีลดต่ำกว่าคนปกติ ทำให้เชื้อโควิด-19 สามารถผ่านเข้าสู่ร่างกายได้โดยง่าย และเกิดอาการรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
ข้อมูลโดย พชรพรรษ์ ประจวบลาภ
เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย
Smartnews เผยแพร่ 17 กันยายน 2564