คอลัมน์ความเคลื่อนไหว
ข้อมูลล่าสุดของเครือข่ายควบคุมการบริโภคยาสูบในอาเซียน พบว่า มีผู้สูบบุหรี่ในอาเซียนจำนวน 122.4 ล้านคน คิดเป็น 10% ของผู้ที่สูบบุหรี่ทั่วโลก โดยประเทศอินโดนีเซียมีผู้สูบบุหรี่อัตราสูงสุดถึง 66% และประเทศสิงคโปรผู้สูบบุหรี่อัตราต่ำสุด 23.1% และจำนวนเยาวชนที่สูบบุหรี่สูงสุดก็ยังเป็นประเทศอินโดนีเซียจำนวน 65,188,338 คนต่อปี คิดเป็น 36.3% รองลงมาคือ ฟิลิปปินส์จำนวน 16,500,000 คนต่อปี คิดเป็น 23.8% และเวียดนามจำนวน 15,600,000 คนต่อปี คิดเป็น 22.5% ในขณะที่ประเทศไทยมีจำนวน 10,947,037 คนต่อปี คิดเป็น 19.9% และที่ต่ำสุดคือสิงคโปรมีผู้สูบบุหรี่เพียง 375,000 คนต่อปี คิดเป็น 13.3% และการเสียชีวิตในประเทศอินโดนีเซียครองแชมป์เป็นอันดับหนึ่ง
มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ร่วมกับ มูลนิธิเพื่อสังคมอาเซียนปลอดบุหรี่ โดยการสนับสนุนของกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดเวทีเยาวชนอาเซียนขึ้นระหว่างวันที่ 29-30 พฤษภาคม โดยเชิญตัวแทนเยาวชนจาก 9 ประเทศ กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ลาว พม่า และไทย ร่วมกันระดมความคิดและเชื่อมเป็นเครือข่ายในการรณรงค์ป้องกันนักสูบหน้าใหม่ในระดับอาเซียน
Dr.Koong Heag Nung จากประเทศสิงคโปร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านควบคุมยาสูบในเยาวชน โดยมีกระบวนการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย สื่อไปถึงเยาวชนเพื่อให้เด็กเปลี่ยนทัศนคติหรือเปลี่ยนค่านิยมที่ไม่ดีต่อการสูบบุหรี่ ดร.คุง ได้วางแผนการทำงานของกลุ่มเยาวชนอาเซียนร่วมกันหลังการสัมมนานี้ โดยมีเป้าหมายไปที่ Tobacco Free Generation Z 2004 (TFGZ 2004)
เสียงสะท้อนจากเยาวชนที่ได้เข้าร่วมการอบรมครั้งนี้ ทำให้รู้แนวทางการรณรงค์ในต่างประเทศ และรับรู้สถานการณ์ในประเทศต่างๆ เกี่ยวกับการสูบบุหรี่ และที่สำคัญมากๆ คือ การได้รู้จักเพื่อนใหม่ ที่จะได้ทำงานเชื่อมกันเพื่อให้สังคมอาเซียนปลอดบุหรี่อย่างจริงจังในอนาคต
ในวันที่ 30 ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นำตัวแทนเยาวชนอาเซียนจำนวน 40 คน เข้าพบ ฯพณฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอบคุณนายกและคณะรัฐบาลที่ให้ความสำคัญในการกำหนดนโยบายและสนับสนุนมาตรการต่างๆ ในการปกป้องเด็กและเยาวชนจากบุหรี่และสารเสพติดทุกชนิด พร้อมกับมอบสื่อรณรงค์เพื่อคนรุ่นใหม่ไม่สูบบุหรี่ ที่ออกแบบเองเป็นภาษาของแต่ละประเทศเนื่องในโอกาสวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พฤษภาคม
ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมและมีความยินดีอย่างยิ่ง ที่จะได้เกิดความร่วมมือในเรื่องการควบคุมยาสูบในประเทศภูมิภาคอาเซียนเพื่อทำให้สังคมอาเซียนปลอดบุหรี่ โดยเฉพาะในเด็กและเยาวชนจากการสูบบุหรี่ได้อย่างยั่งยืน
ข้อมูลโดย สุขสันต์ เสลานนท์ วันที่ 2 มิถุนายน 2560