มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่
ACTION ON SMOKING AND HEALTH FOUNDATION
Press Release
ศูนย์ข่าวมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่
วันที่ 10 มีนาคม 2566
วันที่ข่าวตีพิมพ์ : สามารถเผยแพร่ได้ทันที
รวมพลังภาคีเครือข่ายควบคุมยาสูบ 17 จังหวัดภาคเหนือ
ร่วมประกาศเจตนารมณ์ “คนเหนือไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า”
วันนี้ (10 มีนาคม 2566) รองพ่อเมืองเชียงใหม่ เป็นประธานในการกล่าวนำภาคีเครือข่ายควบคุมยาสูบภาคเหนือ 17 จังหวัด กว่า 200 คน ร่วมประกาศเจตนารมณ์ “คนเหนือไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า” ในงานสัมมนาเรื่อง “คนเหนือไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า” ซึ่งจัดขึ้นที่ โรงแรมเมอเวนพิค สุริวงศ์ เชียงใหม่ ย้ำจุดยืน คนเหนือ จะร่วมมือกันรณรงค์ป้องกันประชาชนภาคเหนือทุกคน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ให้ปลอดพ้นจากการเสพติดบุหรี่และไฟฟ้าทุกรูปแบบ
นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นประธานในการประกาศเจตนารมณ์ “คนเหนือไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า” ครั้งนี้ การระดมทุกภาคส่วนของภาคีเครือข่ายควบคุมยาสูบ 17 จังหวัด ภาคเหนือให้มาร่วมกันรณรงค์ป้องกันการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้ากับกลุ่มเด็กและเยาวชนถือเป็นวาระแห่งชาติ ที่จะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าขยายวงกว้างไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มเด็กและเยาวชน โดยคำประกาศเจตนารมณ์ “คนเหนือไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า” มีแนวทางดังนี้
ด้าน ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยว่า จากข้อมูลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติปี พ.ศ.2564 พบว่า อัตราการสูบบุหรี่ของคนไทยล่าสุดของประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไปเท่ากับ ร้อยละ 17.4 มีจำนวนผู้สูบบุหรี่เท่ากับ 9.9 ล้านคน หากมองภาพรวมของประเทศ ลดลงจากรอบสำรวจที่ผ่านมา แต่ที่ยังน่าเป็นห่วง คือ ยังมีปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าขยายวงกว้างไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่เด็กและเยาวชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า จะเกิดการเสพติดนิโคติน สารเสพติดตัวเดียวกันกับที่มีอยู่ในบุหรี่ธรรมดาไปตลอดชีวิต
ถึงแม้ว่าขณะนี้ ประเทศไทยได้มีประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ.2557 และ ประกาศของคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค คำสั่งที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า “บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า”
แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวยังมีปัญหาทำให้บุหรี่ไฟฟ้าสามารถเข้าถึงได้ง่ายทั้งทางตรงและออนไลน์ และที่สำคัญอุตสาหกรรมยาสูบได้พยายามอย่างมากในการวิ่งเต้นผ่านผู้กำหนดนโยบายเพื่อให้ยกเลิกกฎหมายข้างต้น ซึ่งบทเรียนจากหลายประเทศที่ไม่ได้ห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า ต้องประสบปัญหาอัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็กและเยาวชนเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง จนเป็นสาเหตุให้หลาย ๆ ประเทศต้องออกกฎหมายห้ามบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งจากข้อมูลผลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2564 พบว่า ประชากรไทยที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า มีจำนวน 78,742 คน คิดเป็นอัตรา 0.14% ของประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป ที่มีจำนวนทั้งหมด 57 ล้านคน เป็นคนที่สูบทุกวัน 40,724 คน และสูบแบบไม่ทุกวัน 38,018 คน โดยผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า 24,050 คน อายุระหว่าง 15-24 ปี ในขณะที่ภาคเหนือ มีผู้สูบบุหรี่ทั้งสิ้น 1.5 ล้านคน คิดเป็น 15.6% ของประชากรภาคเหนือทั้งหมด ซึ่งถือเป็นภาคที่มีอัตราการสูบบุหรี่ต่ำสุดในประเทศไทย แต่ถึงกระนั้น สถานการณ์การสูบบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชนเริ่มแพร่ระบาดอย่างหนัก เด็กและเยาวชนเริ่มสูบบุหรี่ไฟฟ้ากันอย่างเปิดเผยดังที่กล่าวข้างต้น
ศ.นพ. ประกิต กล่าวเพิ่มเติมว่า การสัมมนาเรื่อง “คนเหนือไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า” วันนี้ มีตัวแทนภาคีเครือข่ายควบคุมยาสูบภาคเหนือจากทุกภาคส่วนเข้าร่วม อาทิเช่น พญ.เสาวนีย์ วิบุลสันติ ผอ.สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่, นางพัชรากาญจน์ คงทวีพันธ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่, พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5, ตัวแทนสื่อมวลชนศูนย์ข่าวปลอดควันภาคเหนือ, ตัวแทนเครือข่ายครูเพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่, ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นปลอดบุหรี่, ตัวแทนสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่, ตัวแทนเยาวชน Gen Z Gen Strong เลือกไม่สูบ ดังนั้นตนจึงขอเชิญชวนทุกท่าน ร่วมกันสื่อสาร ให้ประชาชนมีความรู้และเข้าใจในอันตรายของการเสพติดบุหรี่ไฟฟ้า และแสดงเจตจำนงในการร่วมกันปกป้องเด็ก เยาวชน และคุ้มครองสุขภาพของคนเหนือให้ปลอดพ้นจากการเสพติดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ 02-278-1828