ท่องเที่ยววิถีใหม่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาปลอดบุหรี่

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา

ประกาศเป็นอุทยานปลอดบุหรี่

เพื่อให้สอดรับกับนโยบายของ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดยความร่วมมือของอำเภอเกาะลันตา อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา สาธารณสุขอำเภอเกาะลันตา โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านคลองโตบ องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะลันตาใหญ่ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะลันตา ภาคีเครือข่ายปลอดบุหรี่จังหวัดกระบี่ และมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ

ในปี 2562 จังหวัดกระบี่สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว จำนวน 119,419.4 ล้านบาท เป็นอันดับ 4 ของประเทศ รองจากกรุงเทพมหานคร ภูเก็ต และชลบุรี มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือน รวมจำนวน 6.8 ล้านคน (สำนักงาน การท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกระบี่, 2562) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย มาตรฐานบริการ การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และการเป็นเจ้าบ้านที่ดี สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาในปี พ.ศ.2561-2564 เป็น "เมืองท่องเที่ยวคุณภาพระดับนานาชาติ เกษตรอุตสาหกรรมยั่งยืน สังคมน่าอยู่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและปรับตัวเท่าทันต่อบริบทการเปลี่ยนแปลง" มีประเด็นยุทธศาสตร์ การพัฒนาด้านการท่องเที่ยวให้เป็นการท่องเที่ยวสีเขียว (Green Tourism) เพิ่มศักยภาพให้ได้มาตรฐานสากล และเชื่อมโยงการท่องเที่ยวระดับภูมิภาค และนานาชาติ

นายสมบูรณ์ เต็มชื่น นายอำเภอเกาะลันตา กล่าวว่า อำเภอเกาะลันตา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้สร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ พร้อมการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม โดยสนับสนุนให้พื้นที่สาธารณะตามที่กฎหมายกำหนด เป็นเขตปลอดบุหรี่ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2560 โดยนำร่องจาก องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะลันตาใหญ่ ที่ประกาศเจตนารมณ์มัสยิดทั้ง ตำบลเกาะลันตาใหญ่ เป็นมัสยิดปลอดบุหรี่ ถัด มาปี พ.ศ.2561 ภาคการท่องเที่ยวได้มีการทำข้อตกลงความร่วมมือโรงแรม 16 แห่งในอำเภอเกาะลันตา ปลอดบุหรี่ และปีนี้ ได้ดำเนินการต่อเนื่อง ในส่วนของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาภายใต้กิจกรรม “อุทยานแห่งชาติปลอดบุหรี่ ตอบโจทย์การท่องเที่ยวแบบวิถีใหม่ (New Normal)” ซึ่งเป็นจุดขายที่สำคัญของท่องเที่ยวอำเภอเกาะลันตา

นายวีระศักดิ์ ศรีสัจจัง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา กล่าวว่า ปัญหาของการสูบบุหรี่ในเขตอุทยานแห่งชาติ ยังคงเป็นปัญหาหนึ่งที่สร้างผลกระทบให้เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศที่ใช้บริการอุทยานแห่งชาติ ยกตัวอย่างเช่น ควันที่เกิดจากการเผาไหม้ หรือ ก้นบุหรี่ อันเป็นมลพิษและสร้างปัญหาให้กับการดำเนินงานของอุทยานแห่งชาติเสมอมา ดังนั้น อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2560 กำหนดให้อุทยานแห่งชาติ เป็นสถานที่สาธารณะที่มีการคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าว อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จึงออกประกาศอุทยานแห่งชาติเกาะลันตาปลอดบุหรี่ พ.ศ.2563 ให้ผู้มาใช้บริการและบุคลากรดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2560 ไว้คือ

ข้อ 1 อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาเป็นเขตปลอดบุหรี่ตามกฎหมาย ห้ามไม่ให้สูบบุหรี่หรือทิ้งก้นบุหรี่ บริเวณอุทยานทั้งในและนอกเวลาราชการ เว้นแต่เป็นการสูบบุหรี่หรือทิ้งก้นบุหรี่ในบริเวณพื้นที่หรือในสถานที่ที่เจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานราชการได้จัดไว้

ข้อ 2 อุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะลันตา มีการสังเกตการณ์ ตรวจสอบ ควบคุม ป้องกัน ไม่ให้มีการสูบบุหรี่ในเขตปลอดบุหรี่

ข้อ 3 อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา มีการปฏิบัติตามกฎหมาย พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2560 อย่างเคร่งครัด

ข้อ 4 อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา สนับสนุนการสร้างบรรยากาศและการจัดสภาพแวดล้อมปลอดบุหรี่

ข้อ 5 อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา สนับสนุนให้บุคลากรเป็นแบบอย่างที่ดีในการไม่สูบบุหรี่

ข้อ 6 อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา สร้างความร่วมมือกับชุมชนในการสร้างค่านิยมไม่สูบบุหรี่ ซึ่งประกาศใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป

นายวีระศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ยังได้ปฏิบัติตามนโยบายของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ที่ได้มอบนโยบายให้กับกรมอุทยานฯ ว่า การดูแลอุทยานทั้งทางบกและทางทะเลในช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งทาง ทส.ได้ให้ความสำคัญต่อการรักษาระเบียบและวินัยทั้งในส่วนของนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการในแต่ละอุทยาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้เสียง การจัดการขยะ การไม่อนุญาตดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึง การห้ามสูบบุหรี่ในบริเวณอุทยาน โดยมีนโยบายจัดสถานที่สำหรับการสูบบุหรี่ไว้โดยเฉพาะ ซึ่งจะต้องไม่รบกวนและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเจ้าหน้าที่ และนักท่องเที่ยวด้วย

น.ส.แสงเดือน สุวรรณรัศมี ผู้จัดการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า การสนับสนุนให้องค์กรและหน่วยงานต่าง ๆ จัดสิ่งแวดล้อมให้ปลอดควันบุหรี่ เป็นภารกิจสำคัญที่มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อเสริมหนุนภาคนโยบายในการบังคับใช้กฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะ การที่องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะลันตาใหญ่ และภาคีเครือข่ายปลอดบุหรี่จังหวัดกระบี่ สนับสนุนนโยบายของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาให้เป็นเขตปลอดบุหรี่ จึงเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมอย่างยิ่ง แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของผู้นำในการขับเคลื่อนนโยบายที่สอดรับกับการท่องเที่ยววิถีใหม่ในระดับนานาชาติ ที่ให้ความสำคัญต่อการดูแลสิ่งแวดล้อม รักษาสุขภาพ รักษาธรรมชาติ

การจัดเวทีเสวนาเรื่อง “อุทยานแห่งชาติปลอดบุหรี่ ตอบโจทย์การท่องเที่ยวแบบวิถีใหม่ (New Normal)” ในวันนี้ จะเป็นโอกาสที่ดีที่จะประชาสัมพันธ์การดำเนินงานเรื่องนี้เพื่อให้อุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะลันตาเป็นพื้นที่ต้นแบบปลอดบุหรี่ที่เป็นรูปธรรมขยายผลไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ภายในจังหวัดกระบี่ และจังหวัดใกล้เคียง

ต้องการสอบถามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ นายวีระศักดิ์ ศรีสัจจัง โทร 081-8953815

ศูนยข่าวออนไลน์