เยาวชนอาเซียนขอบคุณนายก ที่ปกป้องเด็กจากบุหรี่
มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่
ACTION ON SMOKING AND HEALTH FOUNDATION
Press Release
ศูนย์ข่าว มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่
วันที่ 30 พฤษภาคม 2560
วันที่ข่าวตีพิมพ์ : สามารถเผยแพร่ได้ทันที
เยาวชนอาเซียนขอบคุณนายกที่ปกป้องเด็กจากบุหรี่
ตัวแทนเยาวชนไทยร่วมกับเยาวชนจากประเทศอาเซียน เข้าพบเพื่อขอบคุณนายกและคณะรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญในการกำหนดนโยบาย และสนับสนุนมาตรการต่าง ๆ ในการปกป้องเด็กและเยาวชน จากบุหรี่และสารเสพติดทุกชนิด ณ ทำเนียบรัฐบาล
วันนี้ (30 พฤษภาคม 2560) ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) นำตัวแทนเยาวชนอาเซียน เข้าพบ ฯพณฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “เพื่อเปิดเวทีให้เยาวชนได้มีส่วนร่วมในการสร้างสังคมปลอดบุหรี่ และรณรงค์สร้างคนรุ่นใหม่ที่ไม่สูบบุหรี่
มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ร่วมกับ มูลนิธิเพื่อสังคมอาเซียนปลอดบุหรี่ โดยการสนับสนุนของกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงจัดเวทีเยาวชนอาเซียนขึ้นระหว่างวันที่ 29 – 30 พฤษภาคม 2560 นี้ โดยได้เชิญตัวแทนเยาวชนจากประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนมาร่วมระดมความคิด และเชื่อมเป็นเครือข่ายในการรณรงค์ป้องกันนักสูบหน้าใหม่ในระดับอาเซียน ที่สำคัญการได้เข้าพบท่านนายกเพื่อ ขอบคุณท่านและคณะรัฐบาล และมอบสื่อรณรงค์เพื่อคนรุ่นใหม่ไม่สูบบุหรี่ จากเยาวชนอาเซียนปลอดบุหรี่ ที่ออกแบบเองเป็นภาษาแต่ละประเทศ 9 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว พม่า มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม สิงคโปร์ และไทย โดยได้ถือโอกาสวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พฤษภาคม
ด้าน นางสาวบังอร ฤทธิภักดี ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อสังคมอาเซียนปลอดบุหรี่ กล่าวว่า “ขณะนี้ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญกับการปกป้องเด็กจากการเริ่มสูบบุหรี่ และตั้งเป้าไว้ว่าในศตวรรษที่ 21 ประเทศต่าง ๆ จะมีคนสูบบุหรี่ต่ำกว่าร้อยละ 5 ทั้งนี้อันเป็นผลจากการที่เด็กรุ่นใหม่ไม่เข้าสู่วงจรการเสพติดบุหรี่ ขณะที่คนรุ่นเก่า กำลังทยอยเลิกสูบบุหรี่
จากข้อมูลล่าสุดของเครือข่ายควบคุมการบริโภคยาสูบในอาเซียน พบว่ามีผู้สูบบุหรี่ในอาเซียน จำนวน 122.4 ล้านคน คิดเป็น 10% ของผู้ที่สูบบุหรี่ทั้งหมดทั่วโลก โดย ประเทศอินโดนีเซียมีผู้สูบบุหรี่อัตราสูงสุดถึง 66% และประเทศสิงคโปร์ผู้สูบบุหรี่อัตราต่ำสุด 23.1% และจำนวนเยาวชนที่สูบบุหรี่สูงสุดก็ยังเป็นประเทศอินโดนีเซีย จำนวน 65,188,338 คนต่อปี คิดเป็น 36.3 % รองลงมา คือ ประเทศฟิลิปปินส์ จำนวน 16,500,000 คนต่อปี คิดเป็น 23.8% และประเทศเวียดนามจำนวน 15,600,000 คนต่อปี คิดเป็น 22.5% ในขณะที่ประเทศไทย มีจำนวน 10,947,037 คนต่อปี คิดเป็น 19.9 % และต่ำสุด คือประเทศสิงคโปร์มีผู้สูบบุหรี่เพียง 375,000 คนต่อปี คิดเป็น 13.3% ในขณะที่ ข้อมูลการเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ในประเทศอาเซียน รวมทั้งสิ้น 569,046 คน ต่อปี โดยประเทศอินโดนีเซียเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่สูงสุดถึง 240,618 คนต่อปี รองลงมา คือ ประเทศฟิลิปปินส์ 81,247 คนต่อปี และเวียดนาม 66,305 คนต่อปี ส่วนประเทศไทยมีจำนวน 50,710 คนต่อปี และต่ำสุด คือประเทศบรูไนมีเพียง 200 คนต่อปี
ในขณะที่สถานการณ์การสูบบุหรี่ของคนไทยในช่วง 24 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2534 – 2558) พบว่า จำนวนผู้สูบบุหรี่ลดลงจาก 12.2 ล้านคนในปี 2534 เป็น 10.9 ล้านคนในปี 2558 ในจำนวนนี้พบว่าเป็นเด็กที่มีอายุ 15-18 ปี 3.1 แสนคน ซึ่งหากเราช่วยกันปกป้องเด็กจากการเริ่มสูบบุหรี่ได้สำเร็จ ก็จะสามารถลดนักสูบหน้าใหม่ได้ถึงร้อยละ 90
ที่น่าเป็นห่วงคือ อัตราการสูบบุหรี่ในหลายประเทศไม่ลดลง ทำให้จำนวนผู้สูบบุหรี่ยังคงเพิ่มขึ้นมากกว่าภูมิภาคอื่นของโลก ตามจำนวนประชากรของอาเซียนที่เพิ่มขึ้น
ด้านข้อมูลการได้รับควันบุหรี่มือสองของเยาวชนในประเทศอาเซียน จากการสูบบุหรี่ของผู้ใหญ่ ทั้งในบ้านและนอกบ้าน ที่ประเทศอินโดนีเซียมีเยาวชน 68.8% ได้รับควันบุหรี่มือสองในบ้าน และ 78.1% ได้รับควันบุหรี่มือสองนอกบ้าน สำหรับประเทศไทย เยาวชน 45.7% ได้รับควันบุหรี่มือสองในบ้าน และ 67.6% ได้รับควันบุหรี่มือสองนอกบ้าน และประเทศเวียดนาม มีเยาวชน 58.5% ได้รับควันบุหรี่มือสองในบ้าน และ 71.2% ได้รับควันบุหรี่มือสองนอกบ้าน”
ด้าน น.ส.สว่างวงศ์ คงทองประเสริฐ หนึ่งในตัวแทนเยาวชนไทยที่ได้เข้าร่วมการประชุมจากโรงเรียน นวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา พุทธมณฑล กล่าวว่า หนูรู้สึกดีใจและภูมิใจอย่างยิ่ง ที่ได้เข้าพบท่านนายกในวันนี้ และขอขอบพระคุณท่านนายก และคณะรัฐบาล ที่มีความกรุณาออกกฎหมายปกป้องเด็กไทยไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของบริษัทบุหรี่และยาเสพติดอื่น ๆ ค่ะ
ต้องการสอบถามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ โทร. 0-2278-1828