บุหรี่ไฟฟ้าคร่าชีวิตมะกัน 5 ป่วยกว่า 450 หมอประกิตเสนอหมออนุทิน ให้มีระบบเฝ้าระวังป่วยของไทย

มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่                    

ACTION  ON  SMOKING  AND  HEALTH  FOUNDATION

                                                                                                

Press Release

ศูนย์ข่าว มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่

วันที่  7 กันยายน  2562

วันที่ข่าวตีพิมพ์ : สามารถเผยแพร่ได้ทันที

 

 

 

บุหรี่ไฟฟ้าคร่าชีวิตมะกัน 5 ป่วยกว่า 450

หมอประกิตเสนอหมออนุทิน ให้มีระบบเฝ้าระวังป่วยของไทย

 

ตายแล้ว 5 ป่วยกว่า 450 CDC สหรัฐเตือนประชาชนทุกรายไม่ควรสูบบุหรี่ไฟฟ้า หมอประกิตกระตุ้น สธ. เร่งออกมาตรการเฝ้าระวังโรคหวั่นซ้ำรอยสหรัฐ

ปอดอักเสบรุนแรงจากบุหรี่ไฟฟ้าคร่าชีวิตนักสูบแล้ว 5 รายในสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ยอดผู้ป่วยพุ่งเป็น 450 ราย ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) ออกโรงเตือนประชาชนทุกคนไม่ควรสูบบุหรี่ไฟฟ้า ชี้เป็นทางเดียวที่จะป้องกันโรคปอดอักเสนรุนแรงปริศนานี้ได้ ขณะที่หมอประกิตกระตุ้นกระทรวงสาธารณสุขไทยเร่งออกมาตรการเฝ้าระวังการรายงานโรคปอดจากบุหรี่ไฟฟ้าหวั่นซ้ำรอยสหรัฐ

เมื่อ 6 ก.ย. 62 ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) ได้ให้ข้อมูลความคืบหน้าเกี่ยวกับการสอบสวนการระบาดของโรคปอดอักเสบรุนแรงจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ที่กำลังระบาดหนักกว่าค่อนประเทศในสหรัฐอเมริกา        ดร. ดานา เดลแมน ผู้รับผิดชอบการสอบสวนโรคครั้งนี้ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้มีรายงานผู้ป่วยจาก 33 รัฐและ 1 เขตปกครอง จำนวน 450 ราย ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตที่ยืนยันแล้ว 3 ราย และกำลังสอบสวนสาเหตุการตายอีก 1 ราย ดร.เดลแมน กล่าวว่าในขณะนี้ยืนยันแล้วว่าโรคปอดอักเสบที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ แต่เกิดจากสารเคมีบางอย่างในบุหรี่ไฟฟ้าที่ผู้ป่วยใช้ ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่าสารเคมีที่ทำให้เกิดโรคปอดอักเสบรุนแรงคืออะไร เนื่องจากผู้ป่วยที่ได้รับรายงานมีการใช้ผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าที่หลากหลาย และซื้อจากแหล่ง ที่ต่างกัน ชนิดผลิตภัณฑ์ที่ใช้มีทั้งบุหรี่ไฟฟ้าแบบปกติทั่วไป และแบบที่ผสมสารสกัดจากกัญชา ซึ่งการป้องกันไม่ให้เกิดโรคดังกล่าวปัจจุบันมีทางเดียวคือการไม่สูบบุหรี่ไฟฟ้าทุกประเภท

นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าหลังจากที่ CDC สหรัฐออกมาแถลงการณ์ ได้มีสำนักงานสาธาณสุขประจำรัฐอินเดียนา, มินนิโซต้า, และแคลิฟอร์เนีย รายงานผู้เสียชีวิตจากปอดอักเสบรุนแรงเพราะสูบบุหรี่ไฟฟ้าแห่งละ 1 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตเมื่อรวมกับผู้เสียชีวิตในรัฐอิลลินอยด์และออรีกอนที่รายงานก่อนหน้านี้แล้ว เพิ่มเป็น 5 รายแล้ว ซึ่ง นพ.ประกิตยังให้ความเห็นว่าจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากปอดอักเสบรุนแรงนี้แท้จริงอาจจะมีมากกว่าที่รายงานมายัง CDC เนื่องจาก CDC เพิ่งประกาศระบบการเฝ้าระวังโรคปอดอักเสบรุนแรงจากบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเป็นทางการ เมื่อ 30 ส.ค. ที่ผ่านมา และ นพ.ประกิต ยังได้เรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุขของไทยออกมาตรการเฝ้าระวังโรคปอดจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า หวั่นซ้ำรอยสหรัฐฯที่ดำเนินการล่าช้าจนทำให้มีจำนวนผู้ป่วยและเสียชีวิตจำนวนมาก

ดร.พญ.เริงฤดี ปธานวนิช อาจารย์ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์รพ.รามาธิบดี ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมจากงานวิจัยล่าสุดตีพิมพ์เมื่อ 6 ก.ย. 62 จากวารสาร the New England Journal of Medicine (NEJM) และ Morbidity and Mortality Weekly Report (MMWR) ที่ได้ทำการศึกษาโรคปอดอักเสบรุนแรงจากบุหรี่ไฟฟ้าจากกลุ่มตัวอย่างผู้ป่วย โดยงานวิจัยจาก NEJM, ดร.เจนนิเฟอร์ เลเดน และคณะได้ศึกษาผู้ป่วยจำนวน 53 รายที่ป่วยในรัฐอิลลินอยด์และวิสคอนซิล พบผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นมีอายุเฉลี่ย 19 ปี และไม่มีโรคประจำตัวมาก่อน อาการสำคัญคือหอบเหนื่อย ไอ เจ็บหน้าอก ร่วมกับอาการคลื่นไส้ อาเจียน โดยเฉลี่ยมีอาการป่วย 6 วันก่อนมาพบแพทย์ ทุกรายตรวจพบภาวะปอดอักเสบรุนแรงที่ปอดทั้งสองข้าง และทุกราย มีประวัติการสูบบุหรี่ไฟฟ้าโดย 37% สูบบุหรี่ไฟฟ้าที่มีสารสกัดกัญชาอย่างเดียว, 17% สูบบุหรี่ไฟฟ้าแบบปกติที่มีเฉพาะนิโคติน และ 44% สูบทั้งสองประเภท โดยพบยี่ห้อที่ผู้ป่วยใช้มีความหลากหลาย พบบุหรี่ไฟฟ้าที่มีสารสกัดกัญชา 14 ยี่ห้อและที่มีนิโคตินอย่างเดียวรสชาดต่างๆ 13 ยี่ห้อ ซึ่งสารเคมีที่คาดว่าเป็นต้นเหตุของโรคน่าจะเป็นสารเคมีในบุหรี่ไฟฟ้าผู้ป่วยใช้ที่ประกอบด้วยสารเคมีอันตรายหลายตัว แต่ยันอยู่ระหว่างการสอบสวนว่าเป็นสารเคมีชนิดใด

ส่วน ดร.เควิน เดวิดสัน และคณะ รายงานใน MMWR ได้ทำการสอบสวนผู้ป่วยปอดอักเสบรุนแรงจากบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 5 รายในรัฐนอร์ธแคโรไลน่า พบทุกรายอาการเหมือนกับที่รายงานในรัฐอื่นๆ คือ หอบเหนื่อย คลื่นไส้ อาเจียน และตรวจปอดพบการอักเสบในปอดทั้งสองข้างแต่ไม่พบการติดเชื้อ ผู้ป่วยทั้ง 5 รายใช้บุหรี่ไฟฟ้าผสมสารสกัดกัญชา โดยมี 3 รายใช้ร่วมกับบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่ได้ผสมกัญชาและอีก 2 รายใช้ร่วมกับสูบบุหรี่ธรรมดา ทั้งนี้คณะผู้วิจัยสงสัยน้ำมันที่ผสมในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเป็นตัวการทำให้เกิดปอดอักเสบครั้งนี้จนเกิดภาวะปอดอักเสบจากการสำลักน้ำมัน (lipoid pneumonia) ซึ่งเป็นโรคที่พบไม่บ่อยนักในภาวะปกติ ส่วนสาเหตุที่แน่ชัดยังอยู่ในระหว่างการศึกษา ซึ่ง ดร.เดเนียล ฟอกซ์ หนึ่งในทีมวิจัยได้ย้ำว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตราย และไม่ใช่สิ่งที่ควรใช้สำหรับคนที่ต้องการเลิกบุหรี่ธรรมดา เพราะเป็นตัวนำสารเคมีอันตรายเข้าสู่ร่างกาย

 

อ้างอิง

Centers for Disease Control and Prevention (Aug 30, 2019). Severe Pulmonary Disease Associated with Using E-Cigarette Products. https://emergency.cdc.gov/han/han00421.asp

Centers for Disease Control and Prevention (Sep 6, 2019). Transcript of September 6, 2019, Telebriefing: Investigation of Pulmonary Disease Among People Who Use E-cigarettes. https://www.cdc.gov/media/releases/2019/t0906_telebriefing_investigation_pulmonary_disease_e-cigarettes.html

Davidson, K. et al. (2019). Outbreak of Electronic-Cigarette–Associated Acute Lipoid Pneumonia — North Carolina, July–August 2019. https://www.cdc.gov/mmwr/volumes/68/wr/mm6836e1.htm?s_cid=mm6836e1_w

Layden, J. et al. (2019). Pulmonary Illness Related to E-Cigarette Use in Illinois and Wisconsin — Preliminary Report. https://www.nejm.org/doi/full/10.1056/NEJMoa1911614