บริษัทบุหรี่ฟ้องล้มกฎหมายควบคุมยาสูบของอียู
มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่
ACTION ON SMOKING AND HEALTH FOUNDATION
Press Release
ศูนย์ข่าว มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2557
วันที่ข่าวตีพิมพ์ : สามารถเผยแพร่ได้ทันที
บริษัทบุหรี่ฟ้องล้มกฎหมายควบคุมยาสูบของอียู
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยข่าวที่บริษัทฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชั่นแนลได้รับไฟเขียวจากศาลในอังกฤษ เพื่อยื่นฟ้องต่อศาลยุติธรรมของสหภาพยุโรปถึงความชอบธรรมของแนวปฏิบัติเพื่อการควบคุมยาสูบ (The EU’s Tobacco Products Directive 2014) ที่ได้รับการเห็นชอบโดยสหภาพยุโรปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยบริษัทฟิลลิป มอร์ริสกล่าวหาว่าแนวปฏิบัติดังกล่าวขัดกับข้อตกลงระหว่างสหภาพยุโรปกับสมาชิกประเทศ โดยล่วงล้ำสิทธิผู้บริโภค จำกัดการเคลื่อนไหวของสินค้าอย่างอิสระ และเป็นอุปสรรคต่อความสามารถในการแข่งขัน โดนแนวปฏิบัติดังกล่าวออกเกินขอบเขตอำนาจที่กำหนดไว้ในข้อตกลงของสหภาพยุโรป ดังเช่นการบังคับให้ห้ามใช้เมนทอลในส่วนผสมของการผลิตบุหรี่ และยังสนับสนุนให้สมาชิกประเทศออกกฎหมายซองบุหรี่แบบเรียบ ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหวอย่างอิสระของสินค้ายาสูบและจะเอื้อต่อการเกิดบุหรี่หนีภาษีเพิ่มขึ้น นอกจากนี้แนวปฏิบัติดังกล่าวยังให้อำนาจสมาชิกประเทศของสหภาพยุโรปในการออกกฎหมายอนุบัญญัติต่าง ๆ ซึ่งไม่น่าจะสอดคล้องกับกฎบัตรของสหภาพยุโรป ทั้งนี้ประเด็นสำคัญที่มีอยู่ในแนวปฏิบัติเพื่อการควบคุมยาสูบของสหภาพยุโรปประกอบด้วย การมีภาพคำเตือนขนาด 65% ทั้งด้านหน้าและด้านหลังของซองและอาจเพิ่มคำเตือนที่ส่วนบนฝาปิดของซอง ห้ามซองบุหรี่ที่มีรูปร่างแบบลิปสติกที่พุ่งเป้าไปที่ผู้หญิง ห้ามซองบุหรี่ที่น้อยกว่าซองละ 20 มวน บุหรี่มวนเองทุกชนิดต้องมีคำเตือนเป็นรูปภาพ ห้ามผสมเมนทอล รสผลไม้ และวานิลลา ควบคุมระดับนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้า และให้มีระบบป้องกันบุหรี่หนีภาษีตลอดทั่วสหภาพยุโรป
ศ.นพ.ประกิต กล่าวว่า ปัจจุบันนี้บุหรี่เป็นสินค้าอุปโภคที่มีการฟ้องร้องต่อศาลมากที่สุด ทั้งศาลภายในประเทศ ที่องค์การการค้าโลก และต่ออนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ จากการที่ประเทศต่าง ๆ ทยอยออกกฎหมายเพื่อควบคุมยาสูบ ตามพันธกรณีที่กำหนดภายใต้อนุสัญญาควบคุมยาสูบ องค์การอนามัยโลกที่มี 179 ประเทศเป็นสมาชิก ครอบคลุมร้อยละ 90 ของประชากรโลก โดยวัตถุประสงค์ของอนุสัญญาฯ คือการคุ้มครองผู้คนรุ่นปัจจุบันและชนรุ่นอนาคตจากอันตรายร้ายแรงของยาสูบ ทั้งนี้ได้มีหลายประเทศสามารถควบคุมอัตราการสูบบุหรี่ลงเหลือต่ำกว่าร้อยละ 20 และประกาศเป้าหมายลดให้เหลือต่ำกว่าร้อยละ 5 ที่เรียกว่า “End game” ได้แก่ ประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฟินแลนด์ สิงคโปร์ เป็นต้น ขณะที่อัตราการสูบบุหรี่ของชายไทยยังสูงถึงร้อยละ 40 และหญิงไทยร้อยละ 2
ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ โทร. 0-2278-1828 / 08-1822-9799