สนช.กัมพูชา ยกมือท่วมท้นผ่านกฎหมายบุหรี่
มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่
ACTION ON SMOKING AND HEALTH FOUNDATION
Press Release
ศูนย์ข่าว มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่
วันที่ 8 เมษายน 2558
วันที่ข่าวตีพิมพ์ : สามารถเผยแพร่ได้ทันที
สนช.กัมพูชา ยกมือท่วมท้นผ่านกฎหมายบุหรี่
ที่กรุงพนมเปญวันนี้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติกัมพูชาลงมติเป็นเอกฉันท์ผ่านกฎหมายควบคุมการบริโภคยาสูบที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ แม้จะถูกบริษัทบุหรี่ล็อบบี้อย่างหนัก
น.ส.บังอร ฤทธิภักดี เลขาธิการมูลนิธิเพื่อสังคมอาเซียนปลอดบุหรี่ กล่าวว่า ตนขอแสดงความยินดีต่อรัฐบาลกัมพูชา ที่สามารถผลักดันกฎหมายควบคุมยาสูบออกมาเป็นผลสำเร็จ กระทรวงสาธารณสุขได้ยกร่างกฎหมายนี้มาหลายปีแล้ว แต่ถูกบริษัทบุหรี่ล็อบบี้ในทุกขั้นตอน จนกฎหมายถูกดองอยู่ในระดับกระทรวงมากว่า 7 ปี แต่หลังจากรัฐมนตรีสาธารณสุขคนปัจจุบัน สามารถนำกฎหมายนี้เข้าสูการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ก็ได้รับการสนับสนุนและอนุมัติจากนายกรัฐมนตรีสมเด็จฮุนเซนและคณะรัฐมนตรี ก่อนจะถูกส่งให้ สภานิติบัญญัติพิจารณาเมื่อเดือนมกราคม และในวันนี้ที่ประชุมสภานิติบัญญัติได้ยกมือเป็นเอกฉันท์ผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้โดยไม่มีการแก้ไข
เลขาธิการมูลนิธิเพื่อสังคมอาเซียนปลอดบุหรี่ กล่าวว่า “บริษัทบุหรี่พยายามล็อบบี้อย่างหนักในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา โดยพยายามที่จะให้ตัดมาตราที่ห้ามโฆษณาและแสดงซองบุหรี่ ณ จุดขาย และมาตราที่กำหนดให้มีคำเตือนเป็นรูปภาพ แต่กระทรวงสาธารณสุขได้ให้ข้อมูลตัวอย่างของประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนที่มีกฎหมายนี้แล้ว และยืนยันที่จะไม่ปรับกฎหมายให้อ่อนลงตามที่บริษัทบุหรี่พยายามล็อบบี้ ประกอบกับนายกรัฐมนตรีสมเด็จฮุนเซ็นได้เลิกสูบบุหรี่อย่างเด็ดขาดเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และมีนโยบายสนับสนุนการไม่สูบบุหรี่ และปกป้องเด็กและเยาวชนจากการสูบบุหรี่ กฎหมายจึงได้รับการ ยกมือสนับสนุนอย่างท่วมท้น” น.ส.บังอร กล่าว
กัมพูชาเป็นประเทศเกือบสุดท้ายในอาเซียนรองจากอินโดนีเซีย ที่ยังไม่มีกฎหมายควบคุมการบริโภคยาสูบ เพราะบริษัทบุหรี่พยายามล็อบบี้กับหน่วยงานต่าง ๆ อย่างหนัก นับตั้งแต่กฎหมายนี้ถูกยกร่างขึ้นมาเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ส่วนอินโดนีเซีย เมื่อไหร่ก็ตาม ที่รัฐบาลพูดถึงการมีนโยบายหรือกฎหมายในการควบคุมการบริโภคยาสูบ ในวันรุ่งขึ้นก็จะมีรถบัสขนชาวไร่ยาสูบนับร้อยมาถือป้ายประท้วงหน้ากระทรวงสาธารณสุข หรือหน้าสภา ทำอย่างนี้เป็นประจำจนรัฐบาลอินโดนีเซีย ไม่สามารถออกกฎหมายที่เข้มแข็งได้ อินโดนีเซียจึงเป็นประเทศเดียวในเอเชียที่ยังไม่ได้ลงนามในสนธิสัญญาควบคุมการบริโภคยาสูบ ขององค์การอนามัยโลก และเป็นประเทศที่สองรองจากจีน ที่เป็นเป้าหมายการขยายตลาดของบริษัทบุหรี่ข้ามชาติ
ในส่วนของประเทศไทย กฎหมายบุหรี่ที่ใช้อยู่ปัจจุบัน เป็นกฎหมายที่ออกมาตั้งแต่ปี 2535 หรือกว่า 20 ปีแล้ว สถานการณ์ต่าง ๆ ได้เปลี่ยนไปมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลยุทธ์ของบริษัทบุหรี่ กระทรวงสาธารณสุขจึงยกร่างกฎหมายฉบับใหม่ขึ้น และผ่านกระบวนการประชาพิจารณ์มาเรียบร้อยแล้ว กระทรวงสาธารณสุขได้ทำเรื่องส่งเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา แต่เวลาล่วงเลยมา 4 เดือนแล้ว กฎหมายนี้ก็ยังไม่ได้รับการบรรจุเข้าสู่การพิจารณา เพราะบริษัทบุหรี่ใช้กลยุทธ์ให้องค์กรและสมาคมต่าง ๆลุกขึ้นมาคัดค้าน โดยอ้างว่าเป็นกฎหมายสุดโต่ง ทำให้ชาวไร่ยาสูบเดือดร้อน ซึ่งเป็นกลยุทธ์เดียวกับที่เขาใช้สำเร็จมาแล้วในอินโดนีเซีย
ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : น.ส.บังอร ฤทธิภักดี โทร. 081-255-1280