สหพันธ์แรงงานฝากนายจ้างลูกจ้างเร่งพัฒนาคุณภาพชีวิตร่วมกัน หยุดทุกปัจจัยคุกคามชีวิตแรงงาน ตั้งหลักที่เลิกบุหรี่ เหล้า พนัน

สมาคมส่งเสริมสิทธิชุมชนเพื่อการพัฒนา

PRESS RELEASE

วันที่ 29เมษายน 2558

 

 

สหพันธ์แรงงานฝากนายจ้างลูกจ้างเร่งพัฒนาคุณภาพชีวิตร่วมกัน   หยุดทุกปัจจัยคุกคามชีวิตแรงงาน   ตั้งหลักที่เลิกบุหรี่  เหล้า  พนัน   ด้านที่ปรึกษาแรงงานนอกระบบขอรัฐบาลไฟเขียว พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ฉบับใหม่    

นางประนอม  เชียงอั๋ง  รองประธานสหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมการตัดเย็บเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์หนังแห่งประเทศไทย  กล่าวว่า  ตนทำงานสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงานมาอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าบุหรี่ก็เป็นปัจจัยบั่นทอนคุณภาพชีวิตผู้ใช้แรงงาน  ไม่น้อยไปกว่าเรื่องเหล้า การพนันและยาเสพติด   กิจกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตจึงใช้วิธีการเริ่มต้นที่ลด ละ เลิก  บุหรี่   เหล้า   ซึ่งสิ่งที่ตามมาชัดเจนคือเรื่องสุขภาพที่ดีขึ้น  หนี้สินลดลง  การขาดงานลดลง   ปัญหาในครอบครัวลดลง  และข้อสำคัญคือมุมมองของนายจ้างก็เปลี่ยนไป   เราจะคุยกันง่ายขึ้น  จะเห็นได้ว่านอกจากเรื่องค่าจ้าง  และสวัสดิการแล้ว  เรื่องคุณภาพชีวิตก็เป็นสิ่งที่นายจ้างและลูกจ้างต้องพัฒนาไปด้วยกัน   

“อย่างไรก็ตาม  เราเฝ้าติดตามความก้าวหน้าของพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่มาโดยตลอด   ในฐานะที่บุหรี่ก็เป็นปัจจัยคุกคามแรงงานอันหนึ่ง    แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมกฎหมายฉบับนี้จึงยังไม่ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี   เพราะปัจจัยชี้ขาดสำคัญในการตัดสินใจน่าจะเป็นการเลือกปกป้องสุขภาพประชาชน  มากกว่ากังวลว่าจะกระทบผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมที่ทำลายชีวิตประชาชนคนไทย รวมทั้งเด็กและเยาวชน    เรื่องนี้จึงไม่น่ายากที่จะพิจารณา 

ที่น่าแปลกใจมากคือแทนที่รัฐบาลจะผ่านกฎหมายควบคุมยาสูบ   ลดผลกระทบ แต่กลับอนุมัติงบประมาณนับหมื่นล้านให้สร้างโรงงานยาสูบใหม่   ตรงนี้เป็นประเด็นที่สังคมกำลังตั้งคำถามถึงจุดยืนและความจริงใจของรัฐบาล  ซึ่งสวนทางกับการคุ้มครองสุขภาพของประชาชนอย่างสิ้นเชิง   แต่ก็ยังไม่สายถ้ารัฐบาลจะพิสูจน์ความจริงใจกับประชาชน”  นางประนอม กล่าว

ด้านนางสาวอรุณี  ศรีโต  นายกสมาคมส่งเสริมสิทธิชุมชนเพื่อการพัฒนา  และที่ปรึกษากลุ่มแรงงานนอกระบบ  กล่าวว่า  ประสบการณ์ที่ทำงานกับกลุ่มแรงงานนอกระบบ  ทั้งกลุ่มจักรยานยนต์รับจ้าง  แม่ค้าหาบเร่แผงลอย  รวมถึงบรรดาซาเล้งรับซื้อของเก่า  เราพบว่าปัญหาบุหรี่เป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งในการคุมคามชีวิตผู้ใช้แรงงานกลุ่มนี้   ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ที่มีรายได้น้อยอยู่แล้วแต่จำนวนมากกลับสูบบุหรี่

“โดยเฉพาะในกลุ่มที่ตนทำงานด้วยพบว่า เกือบ 90% เป็นผู้ที่สูบบุหรี่  มีปัญหาหนี้สิน รายรับไม่พอกับรายจ่าย คุณภาพชีวิตตกต่ำ  ที่สำคัญคือเกือบทั้งหมดซื้อบุหรี่แบบแบ่งขาย   และจากการแบ่งขายก็ส่งผลไปถึงเด็กและเยาวชนในพื้นที่  ส่วนหนึ่งได้กลายเป็นนักสูบหน้าใหม่โดยเริ่มต้นจากการซื้อบุหรี่ที่แบ่งซองขาย  ซึ่งร้านค้าเกือบทั้งหมดก็พร้อมใจกันขายให้เด็ก   ดังนั้นการมีกฎหมายใหม่ออกมาปิดช่องว่าง  ห้ามแบ่งซองขาย  และกำหนดเพิ่มอายุห้ามขายให้เด็กอายุ 18 ปี  เป็น 20 ปี   รวมถึงการควบคุมไปถึงผลิตภัณฑ์บุหรี่รูปแบบใหม่ด้วย เช่น บารากู่  ตรงนี้  ตนเชื่อว่าจะช่วยลดผลกระทบจากบุหรี่โดยรวมได้   และยังหวังว่ารัฐบาลจะตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้อง  ผ่านความเห็นชอบ พระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ ในเร็ว ๆ นี้” นางสาวอรุณี กล่าว

 

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

  • นางประนอม  เชียงอั๋ง  โทร.08-0603-3905
  • นางสาวอรุณี  ศรีโต   โทร.08-1928-6583