บุหรี่ทำไทยเสียรายได้ 3 เท่าของภาษียาสูบ
มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่
ACTION ON SMOKING AND HEALTH FOUNDATION
Press Release
ศูนย์ข่าว มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่
วันที่ 30 เมษายน 2558
วันที่ข่าวตีพิมพ์ : สามารถเผยแพร่ได้ทันที
บุหรี่ทำไทยเสียรายได้ 3 เท่าของภาษียาสูบ
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยการวิเคราะห์ขององค์การอนามัยโลกที่พบว่าในปี พ.ศ.2555 ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ 79,000 คน ทำให้เกิดการสูญเสียแรงงาน 59,000 คน จากผู้ที่ควรจะทำงานได้แต่เสียชีวิตซะก่อน อันทำให้เกิดการสูญเสียรายได้คิดเป็นร้อยละ 2.1 ของจีดีพี และเป็น 3 เท่าของภาษียาสูบที่เก็บได้ในปีเดียวกัน และคาดการณ์ว่าในจำนวนคนไทย 10 ล้านคนที่สูบบุหรี่อยู่ 3.3 ล้านจะเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ในอนาคต
การวิเคราะห์ดังกล่าวเปิดเผยโดยนายมาร์ค กู๊ดไชล์ด นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส องค์การอนามัยโลก ที่วิเคราะห์การใช้ยาสูบและภาษี มิติทางสุขภาพและการพัฒนาในอาเซียน (Tobacco use and taxation health and development perspective in ASEAN) โดยวิเคราะห์จากฐานข้อมูลสถิติการสูบบุหรี่ขององค์การอนามัยโลกและฐานข้อมูลด้านเศรษฐกิจจากธนาคารโลก พบว่า 10 ประเทศอาเซียน มีผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ 676,000 คนในปี พ.ศ.2555 สูญเสียแรงงาน 461,000 คน ทำให้เกิดการสูญเสียทางเศรษฐกิจเท่ากับร้อยละ 2.7 ของจีดีพีรวมของอาเซียน และคิดเป็น 4 เท่าของภาษียาสูบที่ทั้ง 10 ประเทศได้รับรวมกันในปีเดียวกัน ทั้งนี้อินโดนีเซียมีผู้เสียชีวิตสูงสุดคือ 274,000 คน ตามด้วยเวียดนาม 110,000 และเมียนมาร์ 82,000 คน จากการสูบบุหรี่
สหประชาชาติได้ชี้ให้ประเทศต่าง ๆ เห็นความสำคัญของการควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง 4 กลุ่มโรค อันได้แก่โรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง โรคถุงลมปอดพอง และโรคเบาหวาน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเจ็บป่วยและเสียชีวิตปีละ 36 ล้านคนทั่วโลก และในจำนวนนี้ ร้อยละ 30 เสียชีวิตก่อนอายุ 60 ปี ทำให้เกิดการสูญเสียทางเศรษฐกิจจากการรักษาพยาบาลและการขาดรายได้ที่ควรจะได้จากการเสียชีวิตในขณะที่อยู่ในวัยทำงาน อันเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ ซึ่งทั้งสี่กลุ่มโรคมียาสูบเป็นปัจจัยเสี่ยงร่วม ปัจจัยอื่นได้แก่สุรา การกินอาหารที่ไม่เหมาะสมและการขาดการออกกำลังกาย
ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ โทร. 081-822-9799