กฎหมายห้ามสูบบุหรี่ฮ่องกงลดเด็กป่วยอยู่โรงพยาบาล
มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่
ACTION ON SMOKING AND HEALTH FOUNDATION
Press Release
ศูนย์ข่าว มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่
วันที่ 9 มีนาคม 2559
วันที่ข่าวตีพิมพ์ : สามารถเผยแพร่ได้ทันที
กฎหมายห้ามสูบบุหรี่ฮ่องกงลดเด็กป่วยอยู่โรงพยาบาล
ศ.คลินิก (พิเศษ) พญ.มุกดา หวังวีรวงศ์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เปิดเผยรายงานการวิจัยจากฮ่องกงที่พบว่า กฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะทุกที่ ลดจำนวนเด็กป่วยที่ต้องเข้าอยู่โรงพยาบาลด้วยโรคติดเชื้อในปอด หนึ่งหมื่นสามพันกว่ารายในเวลาหกปี งานวิจัยดังกล่าวลงพิมพ์ในวารสารโทแบคโกคอนโทรล โดยการวิเคราะห์เวชระเบียนผู้ป่วยเด็ก 75,870 รายที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่อยู่โรงพยาบาลด้วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่างในปอด ระหว่างเดือนมกราคม ค.ศ.2004 ถึงธันวาคม ค.ศ.2012 โดยรัฐบาลฮ่องกงได้ขยายพื้นที่ห้ามสูบบุหรี่ให้ครอบคลุมสถานที่สาธารณะทุกที่ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ ค.ศ.2007 พบว่า สถิติเด็กที่ต้องเข้าอยู่โรงพยาบาลด้วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่างลดลง 47.4% ในปีแรก และลดลงโดยเฉลี่ย 13.9% ต่อปีในหกปีแรกของการบังคับใช้กฎหมายใหม่ โดยเด็กในวัยเรียนมีอัตราการลดลงของการอยู่โรงพยาบาลมากกว่าเด็กก่อนวัยเรียน รายงานดังกล่าวตอกย้ำถึงอันตรายของควันบุหรี่มือสองที่มีต่อเด็ก และกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในทุกสถานที่สาธารณะมีผลต่อการคุ้มครองสุขภาพจากควันบุหรี่ โดยเฉพาะในเด็ก
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า ภายหลังการออกกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะทุกที่ในปี ค.ศ.2007 ตามที่อนุสัญญาควบคุมยาสูบองค์การอนามัยโลกกำหนด ฮ่องกงได้เพิ่มค่าปรับผู้ที่ฝ่าฝืนสูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะที่ห้ามสูบบุหรี่เป็น 1,500 เหรียญฮ่องกงอัตราเดียว และได้ออกกฎหมายตั้งหน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายห้ามสูบบุหรี่เป็นการเฉพาะ โดยมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานหนึ่งร้อยคน ตรวจตราและลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืนสูบบุหรี่ในที่ห้ามสูบ ทั้งนี้มาตรการควบคุมยาสูบที่เข้มงวด ทำให้ฮ่องกงมีอัตราการสูบบุหรี่ต่ำที่สุดในเอเชีย โดยอัตราการสูบบุหรี่สองเพศรวมกันอยู่ที่ร้อยละ 12 เปรียบเทียบกับประเทศไทยที่อัตราการสูบบุหรี่เท่ากับร้อยละ 20 ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขไทยก็ได้ปรับปรุงกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ตั้งแต่ พ.ศ.2555 แต่ปัญหาคือไม่มีการจัดให้มีเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายที่รับผิดชอบอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในจังหวัดต่าง ๆ นอก กทม. ที่ซึ่งร้อยละ 92 ของผู้สูบบุหรี่ไทยอาศัยอยู่ ทำให้ประเทศไทยไม่ได้ประโยชน์จากกฎหมายห้ามสูบบุหรี่เท่าที่ควร จึงขอเสนอให้กระทรวงสาธารณสุขกำหนดเจ้าหน้าที่เพื่อบังคับใช้กฎหมายควบคุมยาสูบที่ชัดเจนในแต่ละจังหวัด หากต้องการที่จะคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ตามเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ออกมากว่ายี่สิบปีแล้ว
ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
- ศ.คลินิก(พิเศษ) พญ.มุกดา หวังวีรวงศ์ โทร. 08-1171-3096 / ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ โทร. 08-1822-9799