15 ล้าน รายชื่อ สนับสนุนรัฐบาลผ่าน กฎหมายควบคุมยาสูบ ฉบับใหม่
Press Release
วันที่ 5 เมษายน 2559
ณ โรงแรมเอเชีย
15 ล้าน รายชื่อ
สนับสนุนรัฐบาลผ่าน กฎหมายควบคุมยาสูบ ฉบับใหม่
วันนี้ ( 5 เมษายน 2559) ภาคีควบคุมยาสูบ นำโดย สมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ มอบรายชื่อกว่า 15,036,142 ราย สนับสนุนรัฐบาลในการผ่านกฎหมาย (ร่าง) พระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ฉบับใหม่ เพื่อปกป้องเด็กไทยจากบุหรี่
ศ.พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ ประธานสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ ร่วมกับ ภาคีควบคุมยาสูบ 791 องค์กร ประกาศมอบรายชื่อประชาชนจากทุกภูมิภาค จำนวน 15,036,153 รายชื่อ ซึ่งเป็นยอดที่ลงหน้าเว็บไซต์ www.vote4tobaccolaw.com เวลา 09.00 น. ของวันที่ 5 เมษายน 2559 ที่ร่วมลงชื่อสนับสนุนรัฐบาลและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ให้ออกกฎหมายควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ฉบับใหม่ เพื่อคุ้มครองสุขภาพของประชาชนจากพิษภัยของการสูบบุหรี่
ศ.พญ.สมศรี กล่าวว่า วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ ที่ประชาชนทุกสาขาอาชีพ ทั่วทุกภูมิภาค ทุกเพศทุกวัย ทั้งผู้สูบบุหรี่และผู้ไม่สูบบุหรี่ ได้ร่วมมอบรายชื่อแสดงเจตจำนง สนับสนุน รัฐบาลและสภานิติบัญญัติให้ออกกฎหมาย ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ เพราะการสูบบุหรี่ทำให้ผู้สูบบุหรี่สูญเสียสุขภาพ และเสียชีวิตก่อนเวลาอันควร โดยเป็นภาระโรคสำคัญอันดับที่สองของคนไทย และบุหรี่ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ไม่สูบบุหรี่และครอบครัว ทั้งในมิติทางเศรษฐกิจและสังคม ดังนั้นร่างกฎหมายฉบับนี้นอกจากจะเป็นการคุ้มครองคุณภาพชีวิตของคนไทยแล้ว ยังเป็นมาตรการสำคัญในการพัฒนา เศรษฐกิจในระยะยาวอีกด้วย เพราะความสูญเสียทั้งชีวิตและเงินทอง จำนวนมหาศาลที่ต้องใช้ในการรักษาคนป่วยจากการสูบบุหรี่ก็จะลดน้อยลง
“เราขอขอบคุณและเพื่อเป็นกำลังใจสำหรับท่านนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ให้ร่างกฎหมายควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ฉบับใหม่ ผ่านเข้า สนช. เพื่อเป็นของขวัญชิ้นสำคัญที่รัฐบาลมอบให้เด็กไทย และประชาชนไทย เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลกปี 2559 นี้”
ศ.พญ.สมศรี กล่าวว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลจะต้องปรับปรุงกฎหมายที่ใช้มากว่า 20 ปี ที่ล้าสมัยให้ทันสมัยและเข้มแข็ง ในการควบคุมการตลาด และการจำหน่าย สินค้ายาสูบ รวมทั้งเพื่อให้กฎหมายใหม่เป็นไปตามข้อผูกพันระหว่าประเทศ ที่ไทยเป็นภาคีอนุสัญญาควบคุมยาสูบ องค์การอนามัยโลกตามนโยบายของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกฎหมายฉบับนี้ อาจทำให้ธุรกิจบุหรี่ได้ผลกำไรน้อยลง บริษัทบุหรี่จึงพยายามที่จะเข้ามาแทรกแซงการออกกฎหมาย ทั้งทางตรงและทางอ้อม ผ่านเครือข่ายต่าง ๆ ที่ธุรกิจได้จัดตั้งขึ้นตลอดขวบปีที่ผ่านมา ตนและคณะจึงใคร่ขอความกรุณาจาก สนช. ในการออกกฎหมาย โดยปลอดจากการแทรกแซงของ อุตสาหกรรมยาสูบ เพื่อรักษาเนื้อหาร่าง พ.ร.บ.ฯ ไว้อย่างครบถ้วนตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ซึ่งบทบัญญัติต่าง ๆ ล้วนมาจากอนุสัญญาควบคุมยาสูบฯ เพื่อให้เป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพ ในการคุ้มครองสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กและเยาวชน
ด้าน นายธาดา วรรธนปิยกุล ประธานมูลนิธิเครือข่ายหมออนามัย แกนนำหลักในการรวบรวมรายชื่อสนับสนุนร่างกฎหมาย กล่าวว่า มูลนิธิเครือข่ายหมออนามัยในฐานะองค์กรที่ทำงานขับเคลื่อนด้านสุขภาพ และการสร้างสังคมสุขภาวะหน่วยงานหนึ่งในระดับพื้นที่ เป็นภาคีควบคุมยาสูบที่เป็นแรงสำคัญในการเชิญชวน บุคลากร หมออนามัยซึ่ง มีประมาณ เกือบ 50,000 คนทั่วประเทศ รวมถึงได้รณรงค์เชิญชวนประชาชนทั่วประเทศ ร่วมลงชื่อ สนับสนุน (ร่าง) พระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ฉบับใหม่นี้ ตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ.2558 เพราะได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ และความจำเป็นของร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว ซึ่งหากมีผลบังคับใช้ หมออนามัยทั่วประเทศจะสามารถทำงานและขับเคลื่อนการควบคุมการบริโภคยาสูบระดับจังหวัด ให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมในระดับพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อลดจำนวนคนไทยที่จะเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังที่เกิดจากการสูบบุหรี่
ด้าน นางสาว ธนวดี ท่าจีน ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวว่า เครือข่ายมูลนิธิเพื่อนหญิง ขอสนับสนุนและขอเป็นกำลังใจสำหรับนายกรัฐมนตรีและคณะในการร่วมปกป้องเด็กเยาวชนและสตรีไทยจากพิษภัยและอันตรายของบุหรี่ โดยแม้หญิงไทยจะสูบบุหรี่น้อยมาก แต่ได้รับผลกระทบจากการที่สามีสูบบุหรี่ จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบแม่บ้าน 8.5 ล้าน คนได้รับบุหรี่มือสอง ที่บ้าน ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพของสามี ของแม่และเด็ก ความสัมพันธ์ และรายจ่ายในครอบครัวมีปัญหา และเป็นแบบอย่างที่ทำให้ลูกเข้าไปเสพติดบุหรี่ ร่างกฎหมายฉบับใหม่นี้จะทำให้ลูก ๆ เข้าไปเสพติดบุหรี่น้อยลง เพื่อการเติบโต อย่างสดใส เบิกบาน ของเด็กเด็ก อยากให้ท่านนายก มอบกฎหมาย ควบคุมยาสูบฉบับใหม่ เป็นของขวัญ ให้เด็กสตรี ในวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พ.ค.ในปี 59 นี้ เพื่อลมหายใจที่สะอาดปลอดภัยของเด็กและสตรี อีกทั้ง ท่านนายก มีภาพลักษณ์ เป็นผู้ชายตัวอย่าง รักครอบครัวและ ไม่สูบบุหรี่ เครือข่ายสตรี ขอเชิญชวนท่านนายก ร่วม รณรงค์ ผู้ชายไม่สูบบุหรี่ในบ้าน เพื่อปกป้องเด็กและเยาวชน
ท้ายสุด นายเมธชนนท์ ประจวบลาภ หัวหน้าสำนักการศึกษา ศาสนา วัฒนธรรมและสิทธิมนุษยชน เครือข่ายยุวทัศน์ กรุงเทพมหานคร กล่าวย้ำในฐานะที่ตนเป็นเยาวชนไทยที่ไม่สูบบุหรี่ และอยากเห็นเด็กและเยาวชนไทยทุกคน ไม่ตกเป็นทาสของการเสพติดบุหรี่ และตกเป็นเหยื่อของบริษัทบุหรี่ ที่ผ่านมาเครือข่ายยุวทัศน์ กรุงเทพมหานคร ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนเยาวชนจากสถานศึกษา นักเรียนระดับมัธยม และเยาวชนจากชมรมต่าง ๆ รวมตัวกันเพื่อขับเคลื่อนและสนับสนุนนโยบายควบคุมการบริโภคยาสูบ ที่ส่งผลในการปกป้องสุขภาพของเด็กและเยาวชนไทย มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 ปัจจุบัน มีเยาวชนไทยอายุ 15-24 ปี ติดบุหรี่แล้ว 1.6 ล้านคน ที่น่ากลัวคือ ร้อยละ 70 ของคนไทย ที่ติดบุหรี่จะเลิกสูบไม่ได้ไปตลอดชีวิต แม้ว่าร้อยละ 30 ที่เลิกสูบได้ แต่โดยเฉลี่ยจะตกเป็นทาสของบุหรี่คนละ 20 ปี ดังนั้น นั่นหมายถึงจำนวนเยาวชนไทยที่ติดบุหรี่ขณะนี้ กว่า 1.1ล้านคน จะเลิกบุหรี่ไม่ได้ไปจนตลอดชีวิต และกว่าครึ่งหนึ่งของเยาวชนที่ติดบุหรี่จะเสียชีวิตก่อนวัยอันควรด้วยโรคร้ายจากการสูบบุหรี่ และในแต่ละปีมีเยาวชนติดบุหรี่เพิ่มขึ้น 200,000คน จึงน่าเป็นห่วงว่าหากประชาชนในวัยที่มีความเปราะบาง ไม่ได้รับการปกป้องคุ้มครองที่ดีพอ อนาคตของชาติจะเป็นอย่างไร ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องมี พ.ร.บ.ควบคุมยาสูบฉบับใหม่ อย่างเร่งด่วน เพื่อจำกัดการเข้าถึงบุหรี่ของเด็กและเยาวชน รวมถึงหยุดยั้งการตลาดที่มุ่งเข้าหาเด็กและเยาวชน ในนามของเด็กและเยาวชน เรายังเชื่อมั่นว่ารัฐบาลและ สนช.จะมอบ พ.ร.บ.ฉบับนี้เป็นของขวัญแก่ลูกหลาน ผู้เป็นอนาคตของชาติโดยเร็ว
ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ :
ศ.พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ : 081-985-2699
นายธาดา วรรธนปิยกุล ประธานมูลนิธิเครือข่ายหมออนามัย โทร.081-977 – 5095