วอนไม่สูบให้เด็กเห็น สกัดเด็กติดบุหรี่

มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่                    

ACTION  ON  SMOKING  AND  HEALTH  FOUNDATION

                                                                                                 Press Release 

 ศูนย์ข่าว มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ 

วันที่ 16 กันยายน 2559

วันที่ข่าวตีพิมพ์ : สามารถเผยแพร่ได้ทันที

 

 

วอนไม่สูบให้เด็กเห็น  สกัดเด็กติดบุหรี่

ในโอกาสวันเยาวชนแห่งชาติ 20 กันยายน  รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี  ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล  เรียกร้องให้ผู้สูบบุหรี่ทุกคนไม่สูบบุหรี่ในทุกที่ที่มีเด็ก และเยาวชนอยู่ด้วย  เพื่อลดโอกาสการเสพติดบุหรี่ของเยาวชน  ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันเยาวชนจากการติดยาเสพติด  สุรา และอบายมุขอื่น เช่น  การเที่ยวกลางคืน  และการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร  นอกเหนือจากผลเสียต่อสุขภาพที่การสูบบุหรี่ของวัยรุ่น  จะทำให้สุขภาพไม่สมบูรณ์เท่าวัยรุ่นที่ไม่สูบบุหรี่  ทำให้ปอดพัฒนาไม่เต็มที่  ออกกำลังกายได้น้อยกว่าวัยรุ่นที่ไม่สูบบุหรี่  มีอาการทางระบบทางเดินหายใจมากกว่า  เช่น  ไอ เหนื่อยง่าย

            โดยรายงานขององค์การอนามัยโลกระบุว่า  วัยรุ่นที่ได้รับควันบุหรี่มือสองในบ้าน  มีโอกาสติดบุหรี่เพิ่มขึ้น 1.4 ถึง 2.1  เท่า  และวัยรุ่นที่ได้รับควันบุหรี่มือสองที่อื่นนอกบ้าน  มีโอกาสติดบุหรี่เพิ่มขึ้น 1.3  เท่า ถึง 1.8  เท่าของวัยรุ่นที่ไม่ได้รับควันบุหรี่มือสอง

            หลักฐานยังพบว่า  การสูบบุหรี่ของพ่อแม่เพิ่มความเสี่ยงที่ลูกจะติดบุหรี่  โดยเฉพาะหากพ่อแม่สูบบุหรี่ในบ้าน  และการไม่สูบบุหรี่ในบ้านลดโอกาสที่ลูกจะเสพติดบุหรี่

            รศ.นพ.สุริยเดว  กล่าวว่า  การสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าในปี พ.ศ.2557  มีนักสูบหน้าใหม่เกิดขึ้น 2 แสนคน  โดยหนึ่งแสนคนติดบุหรี่ก่อนอายุ 17 ปี  และ 9 ใน 10  คนที่ติดบุหรี่ใหม่ติดก่อนอายุ 24 ปี  ซึ่งตามสถิติเด็กไทยที่ติดบุหรี่ 7 ใน 10 คนจะติดไปตลอดชีวิต  และใน 3 คนที่เลิกสูบได้  โดยเฉลี่ยต้องใช้เวลา 22  ปี ทุกฝ่ายในสังคมจึงต้องร่วมมือกันในการลดนักสูบหน้าใหม่ โดยนอกจากพ่อแม่ต้องเป็นแบบอย่างที่ไม่สูบบุหรี่แล้ว  หากยังเลิกสูบบุหรี่ไม่ได้  ก็ต้องไม่สูบในบ้าน  และพยายามไม่สูบให้ลูกเห็น  และบ้านที่สองของเด็กและเยาวชนคือโรงเรียน  และสถานศึกษาทุกระดับ  บุคลากรโรงเรียนและสถานศึกษาทุกระดับทุกคนโดยเฉพาะผู้บริหารและครูอาจารย์ก็ต้องเป็นแบบอย่างโดยปฏิบัติตามกฎหมายที่ห้ามสูบบุหรี่ในโรงเรียน รวมถึงมหาวิทยาลัย ส่วนในสังคมวงกว้าง  ผู้สูบบุหรี่ทุกคนก็ต้องร่วมกันป้องกันเด็ก และเยาวชนจากการเสพติดบุหรี่  โดยไม่สูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะที่กฎหมายห้ามสูบ  โดยเฉพาะสถานที่สาธารณะที่มีเด็กและเยาวชนอยู่ด้วย

ต้องการสอบถามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ  มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่   โทร. 0-2278-1828