งานปาฐกถารำลึก ศ.นพ.อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ ครั้งที่ ๒ ในหัวข้อ “ศ.นพ.อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการควบคุมยาสูบในประเทศไทย” โดย ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ



 

 

ราชบัณฑิตยสภาจัดงานปาฐกถารำลึก

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ครั้งที่ ๒

ในหัวข้อ

“ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการควบคุมยาสูบในประเทศไทย”

โดย

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ประกิต วาทีสาธกกิจ

วันจันทร์ที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๘

เวลา ๙.๐๐ - ๑๑.๓๐ น.

ณ เรือนเจ้าจอมมารดาเลื่อน ถนนพระรามที่ ๕ เขตดุสิต

 

 

 

                สำนักงานราชบัณฑิตยสภาจัดงานปาฐกถารำลึก ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ ครั้งที่ ๑ เมื่อวันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๖ ในหัวข้อ “กัลยาณมิตรในความทรงจำของข้าพเจ้า” โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ประเวศ วสี

สำหรับในปีนี้ เป็นการจัดงานปาฐกถารำลึก ครั้งที่ ๒ ในหัวข้อ “ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการควบคุมยาสูบในประเทศไทย” โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ประกิต วาทีสาธกกิจ  ทั้งนี้เพื่อเป็นการรำลึกถึงผลงานด้านการริเริ่มรณรงค์ลดการสูบบุหรี่ในประเทศไทยให้สาธารณชนได้ประจักษ์ในคุณงามความดีและเชิดชูเกียรติศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกราชบัณฑิตยสถาน

 

 

 

ประวัติ

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ

 

            ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ เกิดเมื่อวันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๗๘  สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมจากโรงเรียนอัสสัมชัญ กรุงเทพฯ และศึกษาต่อ ณ สหราชอาณาจักร จบแพทยศาสตร์บัณฑิตจากโรงเรียนแพทย์กายส์ มหาวิทยาลัยลอนดอน เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๒  ต่อมา ได้รับประกาศนียบัตรชั้นสูงในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาอายุรศาสตร์ทั่วไป หรือ M.R.C.P. จากราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งลอนดอน เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๖ หลังจากนั้น ได้รับเกียรติเป็นภาคีราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งลอนดอน หรือ F.R.C.P. เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๙

ท่านเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาทและระบบสมองของไทย เป็นอาจารย์แพทย์ผู้ให้ความสำคัญต่อการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และเป็นแบบอย่างแก่ลูกศิษย์  ท่านมีผลงานวิจัยและตำราวิชาการเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ตลอดชีวิตการทำงาน ท่านได้รับตำแหน่งสำคัญดังนี้ ศาสตราจารย์และศาสตราจารย์ระดับ ๑๑, คณบดี คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี, รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข, อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล, นายกราชบัณฑิตยสถาน และ สมาชิกวุฒิสภาและกรรมาธิการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม

ท่านเป็นผู้มีคุณูปการต่อวงการสาธารณสุขไทย ได้ก่อตั้งโครงการผลิตแพทย์เพื่อชนบท มหาวิทยาลัยมหิดล, เป็นประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ และ คณะกรรมการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส.

ด้านครอบครัว ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์อรรถสิทธิ์ฯ สมรสกับ ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงสดใส สูตะบุตร มีบุตร-ธิดา ๓ คน ดังนี้

 

  • ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงอลิสา สมรสกับ ศาสตราจารย์ นายแพทย์สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ
  • นางสาวงามพรรณ เวชชาชีวะ
  • นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สมรสกับ ศาสตราจารย์ ดร. พิมพ์เพ็ญ ศกุนตาภัย

 

 

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ได้รับ

  • มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก
  • มหาวชิรมงกุฎ
  • ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ
  • เหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา

 

เกียรติประวัติ

  • เหรียญทององค์การอนามัยโลก Health Medal (พ.ศ. ๒๕๓๙)
  • ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ วิทยาศาสตร์คลินิก มหาวิทยาลัยมหิดล (พ.ศ. ๒๕๔๔)
  • ปริญญาแพทยศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยมหิดล (พ.ศ. ๒๕๔๖)
  • ปริญญาแพทยศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยรังสิต (พ.ศ. ๒๕๔๖)

 

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๖ ณ โรงพยาบาลรามาธิบดี ด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว สิริอายุได้ ๘๗ ปี

 

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์  ประกิต วาทีสาธกกิจ

อาจารย์อรรถสิทธิ์เขียนถึง ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ประกิต วาทีสาธกกิจ ไว้ในอัตชีวประวัติ 'เกิดมาโชคดี' เล่ม 1 บทที่ 16 เมื่อเล่าถึง งานหลัก งานรอง และงานอดิเรก ดังนี้

“งาน “รอง” ของผมคือ การเป็นสมาชิกของสโมสรโรตารี ซึ่งผมเริ่มตั้งแต่ทำงานอยู่ที่จุฬาฯ โดยสังกัดโรตารีบางกะปิ และ 2 - 3 ปีต่อมาก็ได้รับมอบหมายให้ไปช่วยตั้งสโมสรโรตารีดุสิต ซึ่งนับเป็นสโมสรที่ 5 ของกรุงเทพมหานครและสโมสรที่ 2 ที่สมาชิกพูดภาษาไทย (สโมสรธนบุรีเป็นสโมสรแรก)  เวลานั้นมีอีก 3 สโมสรคือ สโมสรกรุงเทพ กรุงเทพใต้ และบางกะปิ ซึ่งใช้ภาษาอังกฤษ สมาชิกสโมสรโรตารีหรือโรตาเรียนจะต้องไปประชุมร่วมรับประทานอาหารทุกสัปดาห์ในวันที่กำหนด  ถ้าไปไม่ได้ก็สามารถไปสโมสรอื่น ซึ่งมีทั่วโลกแทนได้ (เรียกไป “make - up”)

สมัยนั้น ทั้ง 5 สโมสรที่มีอยู่ในกรุงเทพฯ ประชุมกลางวัน ใช้เวลาไม่เกินหนึ่งชั่วโมง! คติพจน์ของโรตารีสากลมีอยู่ 4 ข้อคือ “เป็นความจริง อิงเที่ยงธรรม นำไมตรี ดีทุกฝ่าย”  จุดเด่นอย่างหนึ่งของทุกสโมสรคือ เชิญแขกเกียรติยศหรือโรตาเรียนมาบรรยายหรือกล่าวสุนทรพจน์ ผมจำได้ว่าเคยฟังเรื่อง “Word Coinage” หรือการบัญญัติศัพท์จากกรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ที่สโมสรบางกะปิ  ผมเองเคยเชิญอาจารย์ประเวศ วะสี ไปพูดที่สโมสรดุสิตเมื่อเราเริ่มรณรงค์การไม่สูบบุหรี่เพื่อหาทุนเริ่มต้นให้อาจารย์ นายแพทย์ประกิต วาทีสาธกกิจ  งานนั้นประสบความสำเร็จมาก  สมาชิกแย่งกันบริจาคและเราได้เงิน 6 หมื่นบาทภายในครึ่งชั่วโมง!”

เงินจำนวนนั้นเป็นทุนตั้งแต่ให้กับโครงการรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ ซึ่งอาจารย์อรรถสิทธิ์เล่าไว้ในเล่ม 1 บทที่ 19

 

 

 

“บุหรี่

เรื่องที่ผมคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุดทางด้านสาธารณสุขและผมทำผลงานที่ส่งผลดีต่อเนื่องมาจนปัจจุบันคือ เรื่องบุหรี่  ผมโชคดีที่สามารถทำให้ ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประกิต วาทีสาธกกิจ (จุฬาฯ รุ่น 19) สนใจทำงานเรื่องนี้ตั้งแต่เป็นอาจารย์หน่วยโรคปอด ภาควิชาอายุรศาสตร์ รามาฯ  ผมกล้าพูดได้ว่าถ้าไม่ใช่ประกิตแล้วก็เป็นไปไม่ได้ที่การรณรงค์เรื่องบุหรี่ในประเทศไทยจะประสบ ความสำเร็จถึงเพียงนี้

เซอร์ริชาร์ด ปีโต้ (Sir Richard Peto, FRS) เพื่อนอังกฤษคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงมากด้านสถิติในโลกก็พูดเช่นเดียวกัน  เขายังได้บรรยายและให้สถิติไว้ว่า งานที่ประกิตทำช่วยให้คนไทย (จำนวนไม่น้อยกว่า 2 ล้านคน) ไม่ตายด้วยบุหรี่  ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า ในช่วง พ.ศ. 2534 - พ.ศ. 2558 แนวโน้มการสูบบุหรี่ลดลงตามลำดับจากจำนวน 12.26 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 32 ของประชากรใน พ.ศ. 2534 เหลือ 10.90 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 19.9 ของประชากรใน พ.ศ. 2558  ผู้สนใจสามารถดูเอกสารที่ผมอ้างอิงถึงได้”

 

ในส่วนของการทำงานร่วมกันของอาจารย์อรรถสิทธิ์และอาจารย์ประกิตในเรื่องการรณรงค์ไม่สูบบุหรี่มีดังนี้

“เมื่อเข้ามาปฏิบัติงานในภาควิชาอายุรศาสตร์ รามาธิบดี อาจารย์ประกิตมีความสนใจในด้านโรคติดเชื้อในปอดและวัณโรคปอดเป็นหลัก จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2529 ศาสตราจารย์ นายแพทย์อรรถสิทธิ์  เวชชาชีวะ ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าภาควิชาอายุรศาสตร์ใน ขณะนั้น ได้แนะนำและชักชวนให้อาจารย์ประกิตมาทำงานด้านการรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่เพราะเล็งเห็นว่าการสูบบุหรี่เป็นพฤติกรรมที่แพร่หลายในคนไทย และไม่มีหน่วยงานใดที่ดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้คนไทยสูบบุหรี่มากขึ้น  ต่อมาเมื่ออาจารย์อรรถสิทธิ์ไปรับตำแหน่งคณบดี ด้วยความร่วมมือของศาสตราจารย์นายแพทย์ ประเวศ วะสี จึงได้เกิดโครงการรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ขึ้น โดย มอบหมายให้อาจารย์ประกิตเป็นผู้ดำเนินการ

ในช่วงที่ อาจารย์อรรถสิทธิ์ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้มีการผลักดันมาตรการทางกฎหมายที่แม้แต่ในต่างประเทศก็ไม่สามารถฝ่าด่านอิทธิพลผู้ผลิตและผู้จำหน่ายบุหรี่ได้ เช่น ในปี พ.ศ.2535 ได้มีการออกกฎหมายห้ามโฆษณาบุหรี่และเกิด พ.ร.บ.คุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ขึ้นโดยกำหนดให้สถานที่สาธารณะต่าง ๆ เป็นเขตปลอดบุหรี่ในขณะที่ประเทศพัฒนาแล้วอย่างญี่ปุ่น ฝรั่งเศส หรือสหรัฐอเมริกา ยังมีการสูบบุหรี่ในที่สาธารณะอย่างแพร่หลาย  นอกจากนี้ ยังมีการขึ้นภาษีสรรพสามิตบุหรี่เป็นระยะ  ส่งผลให้อัตรา การสูบบุหรี่ของคนไทยลดลงจากร้อยละ 30 เหลือร้อยละ 20 และอัตราการสูบบุหรี่ในเพศชายลดลงจากร้อยละ 70 เหลือร้อยละ 50 จนกระทั่งประเทศไทยเป็นประเทศ “ตัวอย่าง” ของโลกของ ความสำเร็จของการณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่        

มูลนิธิร็อกกี้ เฟลเลอร์ได้สนับสนุนให้มูลนิธิเพื่อการไม่สูบบุหรี่เป็นองค์กรหลักในการประสานงานด้านการรณรงค์ควบคุมการสูบบุหรี่ให้กับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมูลนิธิฯ ยังได้รับคัดเลือกจากองค์การอนามัยโลกให้เป็นองค์กรประสานงานการร่างกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมการบริโภคยาสูบ และได้นำกิจกรรมของมูลนิธิฯ ไปเผยแพร่ในนานาประเทศในวันไม่สูบบุหรี่โลกปี พ.ศ. 2541 นอกจากรางวัลเหรียญเกียรติยศจากองค์การอนามัยโลกแล้ว อาจารย์ประกิตยังได้รับรางวัลผู้มีผลงานในการรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ดีเด่นของภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก จากสมาพันธ์ควบคุมการบริโภคยาสูบภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก และรางวัลผู้นำที่เป็นแบบอย่างในการควบคุมการบริโภคยาสูบจาก American Cancer Society

ในช่วงที่อาจารย์อรรถสิทธิ์รักษาตัวในโรงพยาบาลรามาธิบดีก็ยังติดตามข่าวของอาจารย์ประกิตและสั่งให้ส่งดอกไม้ไปแสดงความยินดีในวาระที่อาจารย์ประกิตได้รับรางวัลต่าง ๆ อีกด้วย

 

 

“ผมกล้าพูดได้ว่าถ้าไม่ใช่ประกิตแล้ว ก็เป็นไปไม่ได้ที่การรณรงค์เรื่องบุหรี่ในประเทศไทยจะประสบความสำเร็จถึงเพียงนี้”

นี่คือคำประกาศของอาจารย์อรรถสิทธิ์ที่ชื่นชม

การทำงานของอาจารย์ประกิตเป็นอย่างยิ่ง

 

 


 

 

 

 

 

 

 

topic

  • อดีตแพทย์ชนบทค้านรื้อ กม. สสส.
  • แม่สูบบุหรี่-กินเหล้า ลูกเสี่ยงปากแหว่งฯ
  • มหาสารคามร่วมมือ สสส.จับมือดึงนักศึกษาเลิกบุหรี่เพื่อคนที่คุณรัก เพื่อสุขภาพฉลอง 150 ปี สู่ประชาคมอาเซียน
  • คณะสงฆ์มหาสารคาม รณรงค์เมืองปลอดบุหรี่
  • บทพิสูจน์
  • ชี้แก้ พ.ร.บ. สสส. ไม่ตอบโจทย์ปัญหานักวิชาการแนะยกเครื่องปรับระเบียบ
  • มอบใบประกาศเชิดชูเกียรติปวารณา งดเหล้า/บุหรี่ ครบพรรษา
  • ลดเหล้า-บุหรี่ หนีต้อเนื้อ
  • ตำบลปลอดบุหรี่
  • ภาคีบุหรี่หนุนกม.ยาเสพติด
  • คดีฟิลลิปมอร์ริสกับอธิปไตยของชาติ
  • สั่งร.ร.ปลอด'เหล้า-บุหรี่'
  • คณะสงฆ์รณรงค์ปลอดบุหรี่
  • สสส. หนุน โคราชโมเดล "ปลอดบุหรี่โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน" โชว์นวัตกรรมดีเด่น ช่วยคนเลิกบุหรี่
  • สบส. ขยายเวลาโครงการ "1 อสม. ขอ 1 คนเลิกบุหรี่" ตลอดปี 59 คาดลดนักสูบหน้าใหม่ ร้อยละ 80
  • 'ฮู'หนุนกม.ยาสูบฉบับใหม่ห่วง'บ.ข้ามชาติ'แทรกแซง
  • อช.เขาพนมเบญจา ทำบันทึกข้อตกลง MoU ปลอดบุหรี่ สู่ทิศทางท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพปลอดบุหรี่ วิถี New Normal
  • GenZ โคราช เรียนรู้กฎหมายควบคุมยาสูบ เพิ่มทักษะการปล่อยของ
  • อบรมพัฒนาศักยภาพแกนนำ Gen Z อุบลฯ จากรุ่น สู่รุ่น
  • มาทำความรู้จักกับโรคปอดรั่ว
  • รองโฆษกรัฐบาลห่วงเด็กไทยติดบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น หนุนคนรุ่นใหม่ไม่สูบบุหรี่-บุหรี่ไฟฟ้า
  • สร้างสื่อการเรียนรู้ สำหรับเด็กประถมวัย 22-23 พ.ย.2565
  • มาทำความรู้จักกับโรคปอดรั่ว
  • อช.เขาพนมเบญจา ทำบันทึกข้อตกลง MoU ปลอดบุหรี่ สู่ทิศทางท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพปลอดบุหรี่ วิถี New Normal
  • ชายหาดบางแสน เป็นพืิ้นที่ท่องเที่ยวต้นแบบ ที่ปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ
  • “ชงรัฐบาล” เร่งปราบเว็บไซต์พนันออนไลน์และเว็บไซต์จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า
  • เกาหลีเหนือ ผ่านกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะ
  • อันตรายของบุหรี่ต่อร่างกายของผู้หญิง เพิ่มความเสี่ยงโรคมากมาย
  • คุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ในอาคารชุด
  • "เลิกเพื่อลูก" ต๊ะ BoyScout กับเส้นทางสูบบุหรี่ 30 ปี
  • อบรมพัฒนาศักยภาพบุคลากรโรงเรียนพระปริยัติธรรมปลอดบุหรี่
  • มอบโล่ ชู นวัตกรรมดีเด่น เพื่อป้องกันนักเรียนติดบุหรี่ เครือข่ายครูเพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่ 4 ภาค 81 โรง
  • กฎหมายห้ามสูบบุหรี่ ลดการอยู่โรงพยาบาลของเด็กที่เป็นหืด
  • อินโดนีเซียเข้าร่วมสัญญาควบคุมยาสูบ
  • สพฐ.จับมือเครือข่ายครู และกระทรวงสาธารณสุข ขยายผลสร้างโรงเรียนปลอดบุหรี่ทั่วประเทศ
  • มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ จัดเวทีสรุปบทเรียน เนื่องในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 38 ของการควบคุมการบริโภคยาสูบไทย
  • ควันบุหรี่มือสอง คร่าชีวิตคนไทยปีละกว่า 20,000 ราย งานวิจัยใหม่ยืนยันสูดควันบุหรี่มือสองเสี่ยงมะเร็งเต้านม
  • แกนนำเครือข่ายเยาวชน 9 องค์กร เรียกร้องรัฐบาลให้บุหรี่ไฟฟ้ายังคงเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนไทยจากบุหรี่ไฟฟ้า
  • สื่อในสังกัดสำนักประชาสัมพันธ์ภาคใต้เขต 5 และ 6 ขานรับนโยบาย กรมประชาสัมพันธ์ ร่วมสื่อสารข้อมูล เพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า
  • บทเรียน ยกเลิกการห้ามขายและประเทศที่ให้ขายได้แต่ควบคุมมาตรฐานบุหรี่ไฟฟ้า และการแทรกแซงนโยบายควบคุมยาสูบโดยบริษัทบุหรี่
  • 5 องค์กรร่วมต่อต้านการสูบบุหรี่ไฟฟ้า: เน้นการศึกษาข้อมูลจากสื่อสังคมออนไลน์กำหนดแนวทางการสื่อสาร
  • 14 ราชวิทยาลัยวิชาชีพแพทย์แห่งประเทศไทย ร่วมแถลงการณ์ “หมอไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า” ในวันแพทย์ไทย
  • ลอยกระทง.ashthailand
  • งานปาฐกถารำลึก ศ.นพ.อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ ครั้งที่ ๒ ในหัวข้อ “ศ.นพ.อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการควบคุมยาสูบในประเทศไทย” โดย ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ